สมเด็จพระนเรศวร: ตำนานยุทธหัตถีที่คนไทยต้องรู้จัก

สมเด็จพระนเรศวร ตำนานยุทธหัตถีที่คนไทยต้องรู้จัก

     สวัสดีทุกคน บทความนี้ พี่ TUTOR VIP จะพาไปศึกษาพระราชประวัติของ “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” หนึ่งในพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย  เรื่องราวของพระองค์จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง? ตามไปศึกษาพร้อมกันในบทความเลย

สมเด็จพระนเรศวร ประวัติส่วนพระองค์

ประวัติส่วนพระองค์

        สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ “พระองค์ดำ” ทรงพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 2098 ณ พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชและพระวิสุทธิกษัตรีย์ พระองค์มีพระเชษฐภคินีคือพระสุพรรณกัลยา และพระอนุชาคือสมเด็จพระเอกาทศรถ (พระองค์ขาว)

    ในวัยเยาว์ พระองค์ต้องเสด็จไปเป็นองค์ประกันที่กรุงหงสาวดีตามคำขอของพระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์พม่า เพื่อแสดงความจงรักภักดีของกรุงศรีอยุธยา พระองค์ประทับอยู่ที่หงสาวดีเป็นเวลา 8 ปี และได้แสดงความสามารถในหลายด้าน จนเมื่อพระชนมายุ 17 พรรษาจึงเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา

    หลังจากนั้น พระองค์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระมหาอุปราชปกครองเมืองพิษณุโลก และในปี พ.ศ. 2127 ได้ประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ไม่ขึ้นกับพม่าอีกต่อไป ต่อมาเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 ทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 18 แห่งกรุงศรีอยุธยา ครองราชย์นาน 15 ปี จนเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2148 รวมพระชนมพรรษา 50 พรรษา

สมเด็จพระนเรศวร สถานการณ์บ้านเมือง

สถานการณ์บ้านเมืองในยุคสมเด็จพระนเรศวร

    ในช่วงต้นรัชสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (ครองราชย์ พ.ศ. 2133–2148) บ้านเมืองยังคงอยู่ในภาวะไม่สงบ เนื่องจากกรุงศรีอยุธยาเพิ่งเสียเอกราชให้แก่พม่าในคราวเสียกรุงครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2112 และตกอยู่ภายใต้การปกครองของพม่าในฐานะประเทศราช ส่งผลให้ประชาชนต้องเผชิญกับความทุกข์ยาก และราชสำนักต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของอริราชศัตรู    

    สมเด็จพระนเรศวรทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ในการกอบกู้เอกราช พระองค์ได้แสดงพระราชอำนาจและพระปรีชาสามารถในด้านการทหารตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ โดยเหตุการณ์สำคัญที่แสดงถึงจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์ไทย คือ การประกาศอิสรภาพที่เมืองแครงในปี พ.ศ. 2127 ซึ่งเป็นการยุติการตกเป็นประเทศราชของพม่าอย่างเป็นทางการ

     นอกจากการป้องกันประเทศจากศัตรูภายนอก พระองค์ยังทรงขยายอำนาจของกรุงศรีอยุธยาไปยังดินแดนโดยรอบ เช่น อาณาจักรล้านช้าง เมืองเชียงใหม่ กัมพูชา และนครศรีธรรมราช ทั้งเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเมืองและเพื่อยกระดับอำนาจของกรุงศรีอยุธยา

สมเด็จพระนเรศวร ตำนานยุทธหัตถี

ตำนานยุทธหัตถี

    เหตุการณ์ยุทธหัตถี อันเป็นตำนานสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2135 ขณะนั้น พระเจ้านันทบุเรง กษัตริย์พม่า ทรงมีพระราชประสงค์จะยึดกรุงศรีอยุธยาคืน จึงโปรดให้ พระมหาอุปราชา (โอรสของพระเจ้านันทบุเรง) ยกทัพใหญ่มารุกราน
    สมเด็จพระนเรศวรทรงตระเตรียมกองทัพรับมือ พร้อมตั้งค่ายที่บริเวณหนองสาหร่าย ในเขตตำบลหนองสาหร่าย จังหวัดสุพรรณบุรีในปัจจุบัน เมื่อเช้าวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง พระองค์พร้อมด้วย สมเด็จพระเอกาทศรถ เสด็จเข้าสู่สนามรบบนหลังช้างศึก ทรงนำกองทัพเข้าสู้รบกับพม่าอย่างกล้าหาญ 

    ในระหว่างการรบ สมเด็จพระนเรศวรทรงช้างศึกชื่อ “เจ้าพระยาไชยานุภาพ” ส่วนพระมหาอุปราชาทรงช้างชื่อ “พลายพัทธกอ” ทั้งสองพระองค์ได้ปะทะกันแบบ ยุทธหัตถี คือ การต่อสู้ด้วยอาวุธบนหลังช้าง ซึ่งเป็นการรบที่มีเกียรติและถือว่าเป็นเกียรติยศสูงสุดในหมู่กษัตริย์ การยุทธหัตถีครั้งนี้กินเวลาไม่นาน สมเด็จพระนเรศวรทรงฟันพระแสงของ้าวถูกพระมหาอุปราชาจน สิ้นพระชนม์กลางสนามรบ นับเป็น ชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ของไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง เพราะไม่เพียงแต่เป็นการรบที่มีเกียรติเท่านั้น แต่ยังเป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของกองทัพพม่าอย่างราบคาบ จนต้องล่าถอยกลับไปโดยไม่ได้ผล 

    ชัยชนะในยุทธหัตถีครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นการปลดแอกกรุงศรีอยุธยาให้พ้นจากอิทธิพลพม่าโดยสิ้นเชิง ทำให้กลับมาเป็นเอกราชอย่างแท้จริง และส่งผลให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยและมั่นคงยาวนานกว่า 100 ปี เหตุการณ์นี้จึงกลายเป็น สัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ ความเสียสละ และความรักชาติ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยจดจำและเคารพสืบมาจนถึงปัจจุบัน 

สมเด็จพระนเรศวร มรดกและการรำลึกถึง

มรดกและการรำลึกถึง

    เพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และ วีรกรรมอันกล้าหาญ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ชาวไทยได้ร่วมกันสร้าง “เจดีย์ยุทธหัตถี” ขึ้นที่บริเวณ หนองสาหร่าย จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์ “ยุทธหัตถี” อันยิ่งใหญ่ในปี พ.ศ. 2135 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานให้อนุชนรุ่นหลังได้ระลึกถึงพระเกียรติคุณของพระองค์ 

    นอกจากนี้ วันที่ 18 มกราคมของทุกปี ยังได้รับการกำหนดให้เป็น “วันยุทธหัตถี” หรือ “วันกองทัพไทย” ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการรำลึกถึงชัยชนะในสมรภูมิหนองสาหร่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นการสดุดีและยกย่องพระองค์ในฐานะพระมหากษัตริย์นักรบ ผู้ทรงเสียสละเพื่อกอบกู้เอกราชของชาติไทยจากอำนาจพม่าอย่างห้าวหาญ 

    สมเด็จพระนเรศวรมหาราชยังได้รับการยกย่องว่าเป็น “วีรบุรุษแห่งชาติไทย” และเป็นสัญลักษณ์ของ ความกล้าหาญ ความเสียสละ และความรักชาติ อันยิ่งใหญ่ พระองค์กลายเป็นต้นแบบของความเป็นผู้นำที่เด็ดเดี่ยว และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่รับใช้บ้านเมือง ทั้งทหาร ตำรวจ และประชาชนทั่วไป 

 

    เป็นอย่างไรกันบ้าง? หวังว่าหลังอ่านบทความนี้แล้ว น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติและพระราชกรณียกิจสำคัญของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กันมากขึ้นนะ 

    สำหรับใครที่กำลังมองหาที่ติวตัวต่อตัว หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็มาปรึกษาพี่ TUTOR VIP ได้นะ พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ


   บทความต่อไป TUTOR VIP จะมาแนะนำอะไรอีกนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ

 

ด้วยความร่วมมือของ TUTOR-VIP X Clearnote Thailand

 

สนใจเรียนพิเศษประวัติศาสตร์ตัวต่อตัว ติดต่อได้ที่👇

Line logo LINE ID: @tutorvip หรือคลิ๊ก https://lin.ee/UQ3gQwP
 
ดูอัตราค่าเรียนพิเศษได้ที่ : https://tutor-vip.com/course/learning-price/
 

บทความล่าสุด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save