
ความสำคัญของภาษาจีน
ปัจจุบันภาษาจีนเป็นอีกหนึ่งภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากประเทศจีนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก มีคนจีนเข้ามาในประเทศไทยมากมายไม่ว่าจะมาเพื่อการท่องเที่ยวหรือการทำธุรกิจ ทำให้ภาษาจีนเข้ามามีบทบาทสำคัญในประเทศไทย และทำให้การติดต่อธุรกิจในหลายๆบริษัท มีการใช้ภาษาจีนเพิ่มมากขึ้น โดยถ้าบอกว่าในประเทศไทยมีภาษาที่สองคือภาษาอังกฤษ แน่นอนว่าภาษาที่สามที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นภาษาจีนแน่นอน ดังนั้นการเรียนภาษาจีนจึงมีประโยชน์เป็นอย่างมากในปัจจุบัน และในอนาคต

เรียนภาษาจีนดีอย่างไร?
ภาษาจีนเป็นภาษาที่จะมีบทบาทต่อโลกอย่างมากในอนาคต ดังนั้นใครที่ได้เรียนภาษาจีน ย่อมมีโอกาสที่ดีอย่างมากในอนาคตอันใกล้ หลายๆธุรกิจในประเทศไทยเริ่มให้ความสำคัญกับภาษาจีนมากขึ้น ดังนั้นหลายๆธุรกิจเริ่มมีความต้องการผู้ที่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้เข้าทำงาน หรือเราสามารถเรียนภาษาจีนเพื่อการท่องเที่ยวไปยังประเทศต่างๆได้ เนื่องจากแม้ว่าภาษาอังกฤษจะเป็นภาษากลางที่ใช้กันทั่วโลก แต่ภาษาจีนเป็นภาษาที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก โดยมีคนใช้มากกว่า 1 พันล้านคน ในหลายประเทศ เช่น จีน ไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม เป็นต้น
นอกจากนี้ ภาษาจีนเป็นภาษาที่เรียนได้ง่าย โดยถ้าหากตั้งใจอย่างเรียนจริงจังก็สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ดีระดับหนึ่งแล้ว เพราะไวยากรณ์จีนไม่ยาก ไม่ซับซ้อนเหมือนภาษาอังกฤษ และมีความคล้ายคลึงกับภาษาไทยอีกด้วย

ได้เรียนภาษาจีนตัวต่อตัวกับติวเตอร์คุณภาพ

สอนเน้นจุดสำคัญหรือจุดที่ไม่เข้าใจได้
สามารถถามได้ทันทีที่สงสัย

เรียนได้ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน จนถึงระดับเจ้าของภาษา เรียนได้ทุกวัย

เลือกเวลาเรียนเองได้อย่างอิสระ

เลือกสถานที่เรียนเองได้ ทั้งเรียนที่บ้าน ตามร้านกาแฟ หรือ
เรียนออนไลน์ก็สะดวก

มีตัวเลือกติวเตอร์ให้เลือกหลากหลาย
หากสอนไม่ถูกใจ ขอเปลี่ยนติวเตอร์ได้ทันที

การสอบ HSK คืออะไร ทำไมต้องสอบ
HSK ย่อมาจาก The Hanyu Shuiping Kaoshi (汉语 水平 考试) เป็นการทดสอบความเชี่ยวชาญด้านภาษาจีนสำหรับชาวต่างชาติผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาจีนเป็นภาษาแม่ โดยเป็นการสอบข้อเขียนที่ทดสอบทักษะด้านการฟัง การอ่าน และการเขียน ดำเนินการจัดสอบโดยสำนักงานส่งเสริมการสอนภาษาจีนนานาชาติ (HANBAN) กระทรวงศึกษาธิการประเทศจีน
การสอบ HSK เป็นการสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีน เปรียบเสมือนการสอบ TOEFL และ IELTS ในภาษาอังกฤษ ซึ่งมีวัตถุประสงค์การสอบเพื่อนำไปยื่นสมัครเรียนต่อ สอบชิงทุนการศึกษา สมัครงาน และอื่นๆ
ระดับการสอบ HSK
ปัจจุบันการสอบ HSK มีทั้งหมด 9 ระดับ (อัปเดตปี 2023) โดยเริ่มจาก ระดับ 1 (ง่ายสุด) ไปถึง ระดับ 9 (ยากสุด) โดยจะแบ่งเป็นพาร์ทฟัง พาร์ทอ่าน พาร์ทเขียน และ มีเวลาในการทำมากน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละระดับ
1. ภาษาจีนระดับต้น (初级)
HSK ระดับ 1 : ต้องเข้าใจคำศัพท์และประโยคง่ายๆ การสอบระดับ 1 ไม่เป็นที่นิยมสำหรับผู้ใช้ภาษาจีน มักจะใช้เพื่อทดสอบความรู้ของตนเองเท่านั้น
HSK ระดับ 2 : ต้องเข้าใจประโยคง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน โดยส่วนมากผู้เรียนภาษาจีนมักจะเริ่มสอบที่ระดับ 2 หรือ 3 เป็นต้นไป
HSK ระดับ 3 : ต้องสามารถใช้ภาษาจีนพูดติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน การเรียน การท่องเที่ยว หรือการทำงานขั้นพื้นฐานได้ โดยการสอบระดับนี้ใช้เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยและสอบชิงทุนการศึกษาต่างๆ
2. ภาษาจีนระดับกลาง(中级)
HSK ระดับ 4 : ต้องสามารถใช้ภาษาจีนพูดติดต่อสื่อสารได้ในวงกว้างกว่าระดับ 3 และสื่อสารกับเจ้าของภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว
HSK ระดับ 5 : ต้องอ่านหนังสือพิมพ์และนิตยสารภาษาจีนได้ รับชมหนังหรือซีรี่ส์จีนได้อย่างเข้าใจ และใช้ภาษาจีนในการพูดในที่สาธารณะได้
HSK ระดับ 6 : ต้องสามารถฟังและอ่านข่าวภาษาจีนได้อย่างแตกฉาน สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองได้แบบไม่ต้องมีสคริปต์ และสามารถเขียนภาษาจีนได้คล่องเหมือนเจ้าของภาษา
3. ภาษาจีนระดับสูง(高级)
HSK ระดับ 7-9 : จะใช้ข้อสอบแบบเดียวกัน ซึ่งเน้นการทดสอบความสามารถด้านการใช้ภาษาจีนที่มีเนื้อหาซับซ้อนทั้งในด้านการใช้ชีวิตในสังคม การวิจัยทางวิชาการและด้านอื่นๆ ได้อย่างมีระบบและมีมาตรฐาน สำหรับผู้ที่ใช้ภาษาจีนเป็นภาษาต่างประเทศ โดยแบบทดสอบได้ถูกออกแบบตาม “เกณฑ์มาตรฐานการวัดระดับความรู้ภาษาจีนสำหรับการศึกษาภาษาจีนนานาชาติ” (ฉบับปี2021) โดยแบบทดสอบ 1 ฉบับ จะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับ 7 ระดับ 8 ระดับ 9 โดยจะประเมินระดับจากผลคะแนนสอบ ระดับ 9 ถือเป็นระดับที่สูงสุด

การสอบ HSKK คืออะไร
การสอบวัดระดับความสามารถภาษาจีน ในทักษะด้านการพูด HSKK (Chinese Proficiency Speaking Test) แยกจากการสอบข้อเขียน HSK โดยแบ่งเป็นระดับต้น กลาง และสูง
การสอบ HSKK ดีอย่างไร
1.ทราบระดับความสามารถภาษาจีนเพื่อวางแผนพัฒนาทักษะภาษาต่อไป
2.ใช้เป็นหลักฐานในการศึกษาต่อ
3.ใช้เป็นหลักฐานในการสมัครขอทุนการศึกษาต่อที่ประเทศจีน
ระดับการสอบ HSKK
ระดับต้น ความรู้เทียบเท่า HSK ระดับ 1 และ 2 เหมาะสำหรับผู้ที่รู้คำศัพท์ 200 คำเป็นอย่างน้อย
ระดับกลาง ความรู้เทียบเท่า HSK ระดับ 3 และ 4 เหมาะสำหรับผู้ที่รู้คำศัพท์ 900 คำเป็นอย่างน้อย
ระดับสูง ความรู้เทียบเท่า HSK ระดับ 5 และ 6 เหมาะสำหรับผู้ที่รู้คำศัพท์ 3,000 คำเป็นอย่างน้อย
การสมัครสอบ HSK , สอบ HSKK
การสอบ HSK , สอบ HSKK มีจัดสอบเป็นประจำทุกเดือน โดยสามารถตรวจสอบรอบสอบและสถานที่สอบใกล้บ้านได้ที่