พัฒนาการของเด็กแต่ละช่วงวัย
เด็กแต่ละช่วงวัยนั้นจะมีพัฒนาการการเรียนรู้ที่แตกต่าง ทั้งการเรียนรู้ทางด้านร่างกาย การใช้อวัยวะต่างๆ การใช้นิ้วมือหยิบจับสิ่งของ การพูด การมอง การฟัง ปฏิกิริยาการตอบรับ และ การเรียนรู้ทางด้านสติปัญญา ระบบทางความคิด การสื่อสารในรูปแบบต่างๆ ในแต่ละช่วงวัยควรที่จะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่แตกต่างกันออกไป
เด็กช่วงอายุ 1 – 3 ปี (Toddler)
เป็นช่วงอายุที่มีพัฒนาการสูงที่สุดทั้งด้านร่างกายเเละสมอง วัยนี้เราสามารถให้น้องๆได้การเรียนรู้ผ่านการปีนป่าย โยนลูกบอล กระโดด วิ่ง ปั้นดินน้ำมัน ให้น้องๆได้ลองเรียนรู้ผ่านร่างกาย การสัมผัส ให้น้องได้เรียนรู้การใช้นิ้ว ให้ได้ลองจับช้อนส้อม ขีดเขียน จับดินสอ ระบายสีง่ายๆ ให้จินตนาการของเขาได้โลดเเล่นไปในโลกวัยเด็ก ช่วงวัยนี้คุณพ่อคุณเเม่ต้องพยายามสื่อสารกับน้อง ให้น้องได้เรียนรู้ด้านภาษาผ่านการสื่อสาร สนทนา น้องสามารถที่จะเรียนรู้ภาษา 2 ภาษาได้อย่างไม่สับสน คุณพ่อคุณเเม่สามารถหาครูสอนพิเศษไปสอนน้องๆวัยก่อนอนุบาล ฝึกเรียนภาษาง่ายๆ ให้น้องได้ฝึกสนทนา ปฏิบัติตามคำสั่งง่ายๆ เรียนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ในคำศัพท์ คำสั่งง่ายๆ ก็จะช่วยให้น้องมีพัฒนาการด้านภาษาที่มากขึ้น
เด็กช่วงอายุ 3 – 5 ปี (Preschoolers)
เป็นวัยซุกซนของคุณหนูน้อย น้องจะเริ่มลองทำสิ่งใหม่ๆ กล้าที่จะอะไรมากขึ้น ซึ่งคุณพ่อคุณเเม่ควรให้น้องๆได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ ให้น้องได้ลองเล่นกับเด็กคนอื่นๆ ได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ให้ลองได้พูดประโยคยาวๆ พยายามอ่านหนังสือ อ่านนิทานกับน้อง ใช้ของเล่นเป็นการเเสดงสมมติ ให้น้องได้ลองวาดรูปจากสิ่งที่เคยเห็นมา ให้น้องได้ลองฝึกเขียนตัวอักษร ให้ได้ท่องจำตัวอักษร รูปต่างๆ การเรียกชื่อสิ่งของ คำศัพท์ต่างๆ วัยนี้ คุณพ่อคุณเเม่สามารถหาครูสอนวิชาง่ายๆให้กับน้องโดยเฉพาะ ครูภาษาไทย ครูภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ครูคณิตศาสตร์ เเละที่สำคัญควรให้เขาได้เลอะได้เล่นให้เต็มที่เพราะจะทำให้เขามีประสบการณ์เเละความสนุกในวัยเด็กที่สุด
เด็กช่วงอายุ 5 – 12 ปี (Middle Childhood)
วัยนี้เป็นช่วงน้องที่เรียนอยู่ระดับอนุบาล 3 ถึง ป.6 เป็นช่วงที่จะได้รับการเรียนรู้พื้นฐานในเรื่องต่างๆ วิชาต่างๆ สิ่งสำคัญคือ เราต้องการให้เด็กๆของเราได้รับการเรียนรู้ที่ดีที่สุดซึ่งเด็กเเต่ละคนควรได้รับการเรียนการสอนที่เป็นเฉพาะของเเต่ละคน เพราะเด็กเเต่ละคนไม่สามารถที่จะเข้าใจทุกอย่างได้เหมือนกัน ในระยะเวลาเท่ากัน บางคนสามารถเข้าใจได้อย่างไว ก็ควรมีครูที่สอนควบคู่ไปกับความสามารถของเด็กให้พัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว เด็กบางคนต้องใช้เวลาในการสร้างพื้นฐานความรู้ให้มั่นคง ก็ควรได้รับการสอนจากครูที่ปูพื้นฐานของน้องให้เเน่นมากขึ้น เด็กเเต่ละคน ควรมีครูเป็นของตนเอง เพื่อให้เขาได้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
เด็กช่วงอายุ 13 – 18 ปี (Adolescence)
คือช่วงวัยรุ่นนั่นเอง เป็นช่วงที่น้องๆกำลังลองผิดลองถูก ค้นหาว่าอะไรที่เขาอยากจะเป็น สิ่งใดที่เขาอยากจะทำ ดังนั้นประสบการณ์ต่างๆจึงเป็นสิ่งที่น้องต้องการทำมากที่สุด การได้ออกไปเรียนกับเพื่อนๆ สนุกกับเพื่อนๆ ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆเป็นสิ่งที่มีค่ากับน้องๆวัยนี้เป็นอย่างมาก หรือถ้ามีโอกาสได้ไปเเลกเปลี่ยนอยู่ต่างประเทศหรือได้ไปเรียนที่ต่างประเทศไม่ว่าจะสั้นหรือยาว ก็เป็นประสบการณ์ที่มีค่ากับเด็กวัยนี้อย่างมาก เเละจะทำให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์
บทความล่าสุด
สังคมและประวัติศาสตร์
สรุปลำดับราชวงศ์ของไทย
ภาษาไทย
สรุปหลักเกณฑ์คำทับศัพท์แบบเข้าใจง่าย
ภาษาไทย
ปูพื้นฐานความรู้ภาษาไทยเรื่อง คำราชาศัพท์