ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาหากพูดถึงประเทศที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วแล้ว หลายคนจะต้องนึกถึง “ประเทศเกาหลีใต้” อย่างแน่นอน ไม่เฉพาะพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่ด้านสื่อบันเทิง และการศึกษา “เกาหลี” ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นแนวหน้าของโลกด้วยเช่นกัน
“เกาหลี” จึงกลายเป็นอีกจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักศึกษาจากทั่วโลก น้อง ๆ คนไหนที่กำลังสนใจศึกษาต่อที่เกาหลีในระดับป.ตรี ปักหมุดบทความนี้กันเอาไว้ได้เลย!
เลือกอ่านเนื้อหาที่ต้องการ
เรียนต่อป.ตรีที่เกาหลี ดีอย่างไร?
การเรียนต่อป.ตรีที่เกาหลี มีข้อดี เช่น
1. ได้พัฒนาทักษะภาษาเกาหลี: ภาษาเกาหลีเป็นภาษาที่มีความสำคัญในทางธุรกิจ และมีอัตราการเติบโตของผู้เรียนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หากได้ภาษาเกาหลีก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในด้านการศึกษาและการทำงานในอนาคตมากขึ้นด้วย
2. ได้สัมผัสวัฒนธรรมเกาหลี: ประเทศเกาหลีเป็นประเทศหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนที่ใดในโลก การได้มาเรียนต่อที่เกาหลีจะทำให้น้อง ๆ ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมเกาหลีได้โดยตรง
3. ผู้คนเป็นมิตร: เกาหลีเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่าผู้คนเป็นมิตร และค่อนข้างเปิดรับคนต่างชาติ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ทำให้มีโอกาสได้สร้างมิตรภาพใหม่ ๆ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับชาวเกาหลี และเพื่อนนักศึกษาจากนานาประเทศ
4. หลักสูตรการศึกษาที่มีคุณภาพระดับโลก: หลักสูตรการศึกษาของประเทศเกาหลีจัดว่าอยู่ในแนวหน้าของเอเชีย โดยในปี 2023 มีมหาวิทยาลัยจากเกาหลีติด Top 100 ของโลกถึง 6 แห่ง
อ้างอิงจาก: QS World University Rankings 2023: Top global universities
5. ค่าใช้จ่ายไม่สูง: ค่าเล่าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยของเกาหลีถือว่าไม่สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอื่น ๆ
6. ทุนการศึกษา: มีสถาบันการศึกษาในเกาหลีที่สนับสนุนทุนการศึกษา และค่าใช้จ่ายบางส่วนสำหรับนักศึกษาต่างชาติเป็นจำนวนมาก
7. โอกาสในการร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ: ด้วยหลักสูตรการศึกษาที่มีคุณภาพทำให้หากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่เกาหลีแล้ว ก็จะเป็นอีกใบเบิกทางที่ดีในการร่วมงานกับองค์กรชั้นนำ
เป็นต้น
ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
การเตรียมตัวเรียนปริญญาตรีในเกาหลีมีหลากหลายขั้นตอน ดังนี้
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยและหลักสูตรที่สนใจ
ศึกษาหลักสูตรปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยที่สนใจเพื่อให้สามารถเตรียมตัวได้ตรงจุดก่อนเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศเกาหลี
- สมัครเรียน และเตรียมเอกสารที่จำเป็น
หลังจากที่ได้ตัดสินใจเลือกมหาวิทยาลัยที่ต้องการแล้ว ต้องทำการสมัครเรียนกับมหาวิทยาลัย โดยเตรียมเอกสารที่จำเป็นตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด เช่น วุฒิการศึกษาระดับม.ปลาย, คะแนนสอบวัดระดับภาษาเกาหลี เป็นต้น
- ยื่นขอวีซ่า
เมื่อสมัครเรียนเรียบร้อยแล้วจะต้องนำใบตอบรับจากสถานศึกษาในประเทศเกาหลีมาใช้ในการขอวีซ่าD-2-2 โดยปฏิบัติตามขั้นตอนตามที่เว็บไซต์ของสถานทูตเกาหลีระบุ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก
- ฝึกฝนภาษาเกาหลี
ภาษาเกาหลีมีความสำคัญอย่างมากในการใช้ชีวิตที่ประเทศเกาหลี จึงควรมีความรู้ภาษาเกาหลีในระดับพื้นฐานประมาณ TOPIK3 ก่อนเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศเกาหลี เพื่อให้ใช้ชีวิตในเกาหลีได้อย่างราบรื่น
- ศึกษาวัฒนธรรมเกาหลี
การรู้จักวัฒนธรรมเกาหลีจะช่วยให้ปรับตัวกับวัฒนธรรมและสังคมที่แตกต่างได้ง่ายและมีความสุขมากขึ้น น้อง ๆ จึงควรศึกษาวัฒนธรรมเกาหลีมาบ้างก่อนไปศึกษาต่อที่ประเทศเกาหลี
- ติดตามข้อมูลข่าวสารจากสถาบันการศึกษาและสถานทูตอยู่เสมอ
หมั่นติดตามข่าวสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสมัครเรียน เพื่อให้ทราบเกณฑ์การคัดเลือกที่อาจมีการปรับเปลี่ยน รวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับการยื่นขอวีซ่าจากสถานทูต โดยใช้ทางการสื่อสารต่างๆ เช่น เว็บไซต์ หรือเพจในโซเชียลมีเดีย เป็นต้น
ต้องใช้คะแนนสอบอะไรบ้าง?
การเข้าศึกษาต่อปริญญาตรีในเกาหลีมีเกณฑ์การคัดเลือกที่แตกต่างกันไปตามแต่ละมหาวิทยาลัย โดยทั่วไปมักจะมีเกณฑ์ดังนี้
- วุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย: โดยเอกสารต้องออกโดยสถาบันการศึกษา และเป็นฉบับภาษาอังกฤษหรือภาษาเกาหลี
- คะแนนสอบวัดระดับภาษาเกาหลี (TOPIK): ที่มีผลผ่านเกณฑ์ตามที่สถาบันการศึกษากำหนด โดยมากมักกำหนดที่ TOPIK3 หรือTOPIK4 อย่างไรก็ตามบางหลักสูตรอาจไม่จำเป็นต้องใช้ผลสอบวัดระดับภาษาเกาหลีแต่ใช้ผลสอบภาษาอังกฤษแทน
- Statement of Purpose (SOP): เป็นการเขียนเรียงความแนะนำตัวเองถึงแรงบันดาลใจ และเหตุผลที่ต้องการศึกษาต่อในสาขาและมหาวิทยาลัยที่สมัคร รวมถึงแผนการในอนาคตหลังเรียนจบ เน้นเขียนให้กระชับ ชัดเจนโดยทั่วไปจะมีความยาวไม่ควรเกิน 1 หน้า A4
- Letter of recommendation: จดหมายแนะนำตัวจากคุณครูที่เคยสอนน้อง ๆ
อย่างไรก็ตามบางมหาวิทยาลัยอาจต้องการเอกสารอื่น ๆ ด้วย น้อง ๆ สามารถตรวจสอบเกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือกเพิ่มเติมได้จากช่องทางของสถาบันการศึกษาที่สนใจได้โดยตรง
ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไร?
ค่าใช้จ่ายในการเรียนปริญญาตรีในเกาหลีจะแตกต่างกันไปตามสาขาวิชาและประเภทของมหาวิทยาลัย หากเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐจะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่ามหาวิทยาลัยเอกชน
สำหรับค่าใช้จ่ายโดยทั่วไปต่อปีสำหรับมหาวิทยาลัยรัฐจะอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาท แบ่งเป็น
- ค่าเทอม: 100,000-600,000 บาท/ปี
- ค่าที่พัก: 10,000-17,000 บาท/เดือน
- ค่าอาหาร: 10,000 บาท/เดือน
ทั้งนี้มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่านี้ โดยค่าใช้จ่ายจะรวมถึงค่าเทอม ค่าอาหาร ค่าที่พัก แต่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าประกันสุขภาพ, ค่าเดินทาง เป็นต้น
ที่มา: StudyinKorea
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับน้อง ๆ ที่และกำลังสนใจไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ประเทศเกาหลีกันนะ
ส่วนน้อง ๆ คนไหนที่กำลังมองหาที่ติวภาษาเกาหลี หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็มาปรึกษาพี่ TUTOR VIP ได้เลย พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ
บทความต่อไป TUTOR VIP จะมาแนะนำอะไรอีกนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ
ด้วยความร่วมมือของ TUTOR-VIP X Clearnote Thailand
บทความล่าสุด
สังคมและประวัติศาสตร์
สรุปลำดับราชวงศ์ของไทย
ภาษาไทย
สรุปหลักเกณฑ์คำทับศัพท์แบบเข้าใจง่าย
ภาษาไทย
ปูพื้นฐานความรู้ภาษาไทยเรื่อง คำราชาศัพท์