สวัสดีทุกคน! ในบทความนี้พี่จะสรุปเกี่ยวกับ “อารยธรรมบาบิโลน” ซึ่งเป็นอารยธรรมสำคัญในดินแดนเมโสโปเตเมีย มาดูกันว่าอารยธรรมนี้มีความน่าสนใจอะไรบ้าง และต่างจากอารยธรรมอื่น ๆ อย่างไร ตามไปศึกษาในบทความไปพร้อมกันเลย!
อารยธรรมบาบิโลน คืออะไร?
อารยธรรมบาบิโลน คือ อารยธรรมโบราณที่กำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยชาวอะมอไรต์ หลังจากที่อารยธรรมสุเมเรียนเริ่มเสื่อมอำนาจลง เมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล โดยมีศูนย์กลางที่นครหลวงบาบิโลน ตั้งอยู่ฝั่งแม่น้ำยูเฟรติส
อารยธรรมนี้เจริญรุ่งเรืองที่สุดภายใต้การปกครองของกษัตริย์ฮัมมูราบี (Hammurabi) ผู้ที่เป็นที่รู้จักในด้านกฎหมายฮัมมูราบี ซึ่งถือว่าเป็นกฎหมายที่บันทึกไว้เก่าแก่ที่สุดชุดหนึ่งในโลก
อารยธรรมบาบิโลนแบ่งออกเป็น 2 ยุคใหญ่ ๆ ดังนี้
- บาบิโลนเก่า (First Babylonian dynasty) 1,894 – 1,595 ปีก่อนคริสต์ศักราช
ชาวอะมอไรต์เป็นใหญ่และได้ตั้งกรุงบาบิโลนขึ้นเป็นศูนย์กลางการปกครอง เป็นช่วงที่มีการปกครองแบบรวมศูนย์ และอาณาจักรมีความแข็งแกร่ง
- บาบิโลนใหม่ (Neo-Babylonian Empire) 626 – 539 ปีก่อนคริสต์ศักราช
ชาวคาลเดียนได้สถาปนากรุงบาบิโลนเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอีกครั้ง จนมีความรุ่งเรืองมาก ในสมัยพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ที่ 2
ยุคบาบิโลนเก่า
มีความโดดเด่นในด้านต่าง ๆ ดังนี้
ด้านกฎหมาย
มีการบัญญัติกฎหมายฮัมมูราบี (The Law Code of Hammurabi) จารึกด้วยอักษรคูนิฟอร์ม ซึ่งถือว่าเป็นกฎหมายฉบับแรกของโลก
กฎหมายฉบับนี้ได้วางระบบสังคมเกี่ยวกับการสมรส, การหย่าร้าง, มรดก, สิทธิสตรี, การเลี้ยงดูทาส ตลอดจนกฎหมายด้านการค้า และการทำสัญญาต่าง ๆ รวมไปถึงบทลงโทษต่อผู้กระทำผิดที่มีความรุนแรงในลักษณะที่ทำผิดอย่างไรก็จะได้รับบทลงโทษแบบนั้น เข้าหลักการ “ตาต่อตาฟันต่อฟัน” (an eye for an eye, and a tooth for a tooth)
ด้านการปกครอง
ในสมัยของกษัตริย์ฮัมมูราบีได้มีการขยายอาณาเขตของอาณาจักรเป็นบริเวณกว้าง ทำให้มีการรวมศูนย์อำนาจการปกครอง ก่อให้เกิดระบบราชการที่เข้มแข็ง มีการแต่งตั้งผู้แทนและข้าราชการดูแลเมืองต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้การปกครองของบาบิโลน
ด้านศาสนา
ชาวอะมอไรต์นับถือเทพเจ้าของชาวสุเมเรียน แต่มีการยกให้เทพมาร์ดุ๊ก (Marduk) เป็นเทพเจ้าสูงสุด และได้มีการสร้างซิกกูแรตขนาดใหญ่ 7 ชั้น ที่กรุงบาบิโลน มีความสูง 650 ฟุต
ด้านวรรณกรรม
วรรณกรรมเด่น คือ “มหากาพย์กิลกาเมช” (The Epic of Gilgamesh) ซึ่งมีรากฐานมาจากวรรณกรรมของชาวสุเมเรียนที่ว่าด้วยเรื่องน้ำท่วมโลก
ยุคบาบิโลนใหม่
มีความโดดเด่นในด้านต่าง ๆ ดังนี้
ด้านสถาปัตยกรรม
มีความรุ่งเรืองอย่างมากในสมัยกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ โดยมีผลงานที่โดดเด่น ดังนี้
- สวนลอย (The Hanging Garden of Babylon) เป็นสวนลอยที่สร้างบนหลังคาที่ถูกรองรับด้วยเสาสูง 75 ฟุต ภายในสวนปลูกไม้ดอกสวยงาม น้ำที่ใช้รดพืชพรรณต่าง ๆ ถูกลำเลียงมาจากแม่น้ำยูเฟรติส สวนลอยแห่งนี้จัดเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคเก่า
- ประตูอิชทาร์ (The Ishtar Gate) เป็นแผ่นประตูสวยงามที่ทำจากกระเบื้องหลากสี มีการแกะสลักเป็นสัตว์ต่าง ๆ อาทิ กริฟฟิน ประตูแห่งนี้เชื่อกันว่าเป็นทางผ่านไปสู่เทพมาร์ดุ๊ก (Marduk) ซึ่งเป็นเทพสูงสุด
ด้านดาราศาสตร์
- สามารถคำนวณนับเวลาใน 1 ปี ได้ใกล้เคียงกับปัจจุบัน คือ 1 ปี มี 365 วัน 6 ชั่วโมง 15 นาที 41 วินาที
- สามารถกำหนดดวงดาวสำคัญได้ทั้งหมด 7 ดวง คือ ดาวพุธ, ดาวศุกร์, ดาวอังคาร, ดาวพฤหัส, ดาวเสาร์, ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ ซึ่งใช้ในการกำหนดชื่อวันทั้ง 7 และใช้ในทางโหราศาสตร์อีกด้วย
กล่าวได้ว่าอารยธรรมในดินแดนเมโสโปเตเมียส่วนใหญ่มีรากฐานมาจากอารยธรรมสุเมเรียน และยังได้ส่งต่ออิทธิพลไปยังอารยธรรมในสมัยต่อ ๆ มา หวังว่าน้อง ๆ จะได้ความรู้และเข้าใจเรื่อง “อารยธรรมบาบิโลน” มากขึ้นนะ
ส่วนใครที่กำลังมองหาที่ติวตัวต่อตัว หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็มาปรึกษาพี่ TUTOR VIP ได้นะ พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ
บทความต่อไป TUTOR VIP จะมาแนะนำอะไรอีกนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ
ด้วยความร่วมมือของ TUTOR-VIP X Clearnote Thailand
บทความล่าสุด
สังคมและประวัติศาสตร์
อเล็กซานเดอร์มหาราช: จักรพรรดิผู้เปลี่ยนโลก สรุปเข้าใจง่าย!
สังคมและประวัติศาสตร์
เจาะลึก! วันสำคัญทางพุทธศาสนา ที่เด็กไทยต้องรู้
วิทยาศาสตร์
สรุป “การเคลื่อนที่ของเปลือกโลก รอยเลื่อนต่างๆ เเละทวีปในอดีต”