ศิลปะกอทิก (Gothic Art) : สถาปัตยกรรมมหาวิหารสูงและหน้าต่างกระจกสี

ศิลปะกอทิก (Gothic Art) สถาปัตยกรรมมหาวิหารสูงและหน้าต่างกระจกสี

     สวัสดีน้องๆ ทุกคน บทความนี้ พี่ TUTOR VIP จะมาแชร์เรื่องราวของ ศิลปะกอทิก สถาปัตยกรรมมหาวิหารสูงและหน้าต่างกระจกสี ถ้าพร้อมแล้วตามไปศึกษาต่อในบทความกันเลย!

1.ศิลปะกอทิกคืออะไร

ศิลปะกอทิกคืออะไร?

     ศิลปะกอทิก (Gothic Art) คือรูปแบบทางศิลปะที่พัฒนาขึ้นในทวีปยุโรประหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 12 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ฝรั่งเศส ศิลปะกอทิกถือกำเนิดขึ้นต่อจากศิลปะโรมาเนสก์ (Romanesque) และเป็นช่วงสุดท้ายของศิลปะยุคกลางก่อนจะก้าวเข้าสู่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance)

   ชื่อ “กอทิก” เดิมทีถูกใช้โดยนักวิจารณ์ศิลปะชาวอิตาลีในช่วงปลายยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาเพื่อเรียกรูปแบบงานศิลปะนี้ด้วยความหมายเชิงลบ โดยหมายถึง “ศิลปะของพวกกอท” (Goth) ซึ่งถูกมองว่าเป็นชนเผ่าป่าเถื่อนและไร้อารยธรรม แต่ในความเป็นจริงแล้ว ศิลปะกอทิกเป็นรูปแบบที่มีความประณีตและซับซ้อนอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสถาปัตยกรรม

    แก่นแท้ของศิลปะกอทิก โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมมหาวิหาร คือการแสวงหาความสูงใหญ่ ความสว่าง และการนำ “แสงสวรรค์” เข้ามาสู่ตัวอาคารผ่านหน้าต่างกระจกสีขนาดใหญ่ ซึ่งเปรียบเสมือนการเชื่อมโยงระหว่างโลกมนุษย์กับสวรรค์

2.ลักษณะเด่นของศิลปะกอทิก

ลักษณะเด่นของศิลปะกอทิก

   ลักษณะเด่นของศิลปะกอทิกปรากฏชัดที่สุดในงานสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมหาวิหาร (Cathedral) ซึ่งมีความแตกต่างอย่างมากจากสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ที่เน้นความหนักแน่นและผนังหนา

องค์ประกอบสำคัญทางสถาปัตยกรรม

  • โค้งแหลม (Pointed Arch): เป็นลักษณะเด่นที่สุดอย่างหนึ่ง ที่มาแทนที่ซุ้มโค้งกลม (Round Arch) ของโรมาเนสก์ การใช้โค้งแหลมช่วยกระจายน้ำหนักได้ดีกว่า ทำให้สามารถสร้างอาคารให้สูงโปร่งและเพรียวชะลูดขึ้นสู่ท้องฟ้าได้
  • โครงสร้างทรงโค้งมีสัน (Ribbed Vault): โครงสร้างเพดานโค้งที่มีซี่โครง (Ribs) ค้ำจุนและไขว้กัน (Croisée d’ogives) ช่วยให้การถ่ายน้ำหนักของหลังคาไปยังเสาและครีบยันลอยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผนังด้านในไม่ต้องรับน้ำหนักมาก
  • ครีบยันลอย (Flying Buttress): นับเป็นนวัตกรรมและเอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของกอทิก ครีบยันลอยเป็นส่วนที่เชื่อมระหว่างโครงสร้างด้านในและด้านนอก ทำหน้าที่ถ่ายแรงด้านข้างที่เกิดจากน้ำหนักของหลังคาและเพดานโค้งออกสู่ภายนอก ทำให้สามารถสร้างผนังให้บางลงและเจาะช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ได้
  • อาคารสูงเพรียวและช่องเปิดขนาดใหญ่: ด้วยเทคนิคทางวิศวกรรมข้างต้น ทำให้มหาวิหารกอทิกมีรูปทรงที่สูงลิ่ว ดูอ่อนช้อย และมีช่องเปิดสำหรับหน้าต่างได้มากมาย ต่างจากมหาวิหารโรมาเนสก์ที่มืดทึบ
  • หน้าต่างกระจกสี (Stained Glass): เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้อาคารมีแสงสว่างและสีสันงดงาม หน้าต่างกระจกสีขนาดใหญ่เหล่านี้มักบอกเล่าเรื่องราวในคริสต์ศาสนา และมีหน้าต่างทรงกลมขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “Rose Window” ประดับอยู่บนส่วนหน้าของมหาวิหาร

ลักษณะงานศิลปะแขนงอื่น ๆ

  • ประติมากรรม: มักใช้ประดับตกแต่งมหาวิหาร โดยเฉพาะบริเวณเหนือประตูทางเข้าและเสา รูปทรงของบุคคลเริ่มแสดงความพลิ้วไหว ความสะโอดสะอง และมีลักษณะที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่ายุคก่อนหน้า
  • จิตรกรรม: เนื่องจากสถาปัตยกรรมมีช่องเปิดมาก ทำให้มีพื้นที่สำหรับการเขียนภาพบนฝาผนังน้อยลง งานจิตรกรรมจึงไปเน้นที่การออกแบบหน้าต่างกระจกสี และการวาดภาพประกอบในหนังสือเขียน (Illuminated Manuscripts) ซึ่งมักแสดงรูปคนที่ดูยาวกว่าปกติและมีเสื้อผ้าที่พลิ้วไหว



 

ตัวอย่างของศิลปะกอทิก

     ตัวอย่างสถาปัตยกรรมมหาวิหารกอทิกที่สำคัญและมีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความงามและความสำเร็จทางวิศวกรรมของยุคนี้ ได้แก่

3.1ตัวอย่างของศิลปะกอทิก
  • อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส (Cathédrale Notre-Dame de Paris), ฝรั่งเศส: เป็นหนึ่งในตัวอย่างของกอทิกยุคแรกที่เริ่มใช้ครีบยันลอยอย่างชัดเจน มีชื่อเสียงในด้านสัดส่วนที่สง่างามและรายละเอียดอันวิจิตร
  • อาสนวิหารชาทร์ (Chartres Cathedral), ฝรั่งเศส: ได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของกอทิกยุคสูง (High Gothic) มีความสมบูรณ์ทั้งโครงสร้างและงานกระจกสี ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงสภาพดั้งเดิม

 

3.2ตัวอย่างของศิลปะกอทิก
  • อาสนวิหารอาเมียง (Amiens Cathedral), ฝรั่งเศส: เป็นมหาวิหารกอทิกที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างอาคารให้สูงขึ้นไปอีก
  • อาสนวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral), เยอรมนี: เป็นมหาวิหารกอทิกที่ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานที่สุดแห่งหนึ่ง มีขนาดใหญ่โตและมีความสูงเด่นเป็นสง่า



3.3ตัวอย่างของศิลปะกอทิก
  • อาสนวิหารยอร์ก (York Minster), อังกฤษ: เป็นตัวอย่างสำคัญของสถาปัตยกรรมกอทิกในอังกฤษ (English Gothic) ที่มีความยิ่งใหญ่และมีงานกระจกสีที่น่าประทับใจ

   ศิลปะกอทิกจึงไม่ได้เป็นเพียงรูปแบบทางศิลปะเท่านั้น แต่ยังเป็นบทสรุปของความก้าวหน้าทางวิศวกรรม สุนทรียศาสตร์ และการแสดงออกถึงศรัทธาอันแรงกล้าของผู้คนในยุคกลางผ่านการสร้างสรรค์มหาวิหารที่สูงตระหง่านและส่องสว่างด้วยสีสันจากกระจกสี

 

    เป็นอย่างไรกันบ้าง? หวังว่าหลังอ่านบทความนี้แล้ว น้อง ๆ จะได้รับความรู้เกี่ยวกับ “ศิลปะกอทิก” กันมากขึ้นนะ 

    สำหรับใครที่กำลังมองหาที่ติวตัวต่อตัว หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็มาปรึกษาพี่ TUTOR VIP ได้นะ พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ


   บทความต่อไป TUTOR VIP จะมาแนะนำอะไรอีกนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ

 

ด้วยความร่วมมือของ TUTOR-VIP X Clearnote Thailand

 

สนใจเรียนพิเศษศิลปะตัวต่อตัว ติดต่อได้ที่👇

Line logo LINE ID: @tutorvip หรือคลิ๊ก https://lin.ee/UQ3gQwP
 
ดูอัตราค่าเรียนพิเศษได้ที่ : https://tutor-vip.com/course/learning-price/
 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save