การปกครองเเบบจตุสดมภ์ : เวียง วัง คลัง นา จำง่ายแน่นอน!

การปกครองแบบจตุสดมภ์ เวียง วัง คลังนา จำง่ายแน่นอน

     สวัสดีน้อง ๆ ทุกคน บทความนี้ พี่ TUTOR VIP จะพาไปศึกษาเรื่องราวของ  “การปกครองเเบบจตุสดมภ์” รากฐานการปกครองที่มีอิทธิพลในประวัติศาสตร์ไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่ต้นกรุงศรีอยุธยาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 กันเลยทีเดียว! ถ้าพร้อมแล้วตามไปศึกษาพร้อมกันในบทความเลย

1.จตุสดมภ์คืออะไร

จตุสดมภ์คืออะไร

    “จตุสดมภ์” หมายถึง “เสาหลักทั้งสี่” ซึ่งเป็นระบบการปกครองที่เริ่มใช้ในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ได้ทรงปรับรูปแบบการบริหารราชการส่วนกลางตามแบบแผนของขอม ซึ่งมีพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลางของอำนาจ และมีเสนาบดีรับผิดชอบ 4 ฝ่าย ได้แก่ ขุนเมือง ขุนวัง ขุนคลัง และขุนนา

    ระบบนี้ถูกใช้ต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นราชอาณาจักรอยุธยา จนกระทั่งสิ้นสุดในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เมื่อทรงปฏิรูประบบราชการได้ยกเลิกจตุสดมภ์ และจัดตั้งกระทรวง 12 กระทรวง เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2435

2.โครงสร้างของจตุสดมภ์

โครงสร้างของจตุสดมภ์

    “จตุสดมภ์” หมายถึง “เสาหลักทั้งสี่” ประกอบด้วย


1.กรมเวียง

  • ดูแลทุกกิจกรรมภายในเมืองหลวงและรักษาความสงบในราชธานี
  • ดูแลสถานที่สำคัญและมีหน่วยงานย่อย เช่น
    • กองตระเวนฝ่ายขวาและฝ่ายซ้าย
    • ศาลนครบาลสำหรับพิจารณาคดีในพระนคร
    • เสภาพระนคร (เรือนจำ)
  •  
  • ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ มีการปฏิรูปการปกครอง เปลี่ยนชื่อเป็นกรมนครบาล
  • ได้รับศักดินา 10,000 ไร่


2.กรมวัง

  • รับผิดชอบกิจการในพระราชวังและพระราชฐาน
  • ควบคุมการรับ-จ่ายในวังและงานพระราชพิธี
  • บังคับบัญชาข้าราชการในวัง (ไม่รวมกรมมหาดเล็ก)
  • ดูแลเรื่องความยุติธรรม เพราะเชื่อว่าพระเจ้าแผ่นดินเป็นต้นแบบความยุติธรรม
  • มีหน้าที่ดูแลศาลหลวงและแต่งตั้งยกกระบัตรในหัวเมือง
  • กรมย่อยที่สังกัด ได้แก่
    • กรมตำรวจวังขวา-ซ้าย
    • กรมพระราชยาน
    • กรมพิมานอากาศ (เครื่องสูง)
    • กรมช่างทอง-ช่างเงิน
    • กรมพระสุคนธ์
    • กรมพระแสงใน
    • คลังข้าวสาร
    • กรมศุภรัตน์
  • เมื่อมีการปฏิรูปการปกครองในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เปลี่ยนชื่อเป็นกรมธรรมาธิกรณ์
  • ได้รับศักดินา 10,000 ไร่


3.กรมคลัง

  • ควบคุมการจัดการรายรับและรายจ่ายของรัฐ
  • รับผิดชอบดูแลกิจการค้าสำเภาและการค้ากับต่างประเทศ
  • รับรองคณะทูตและดูแลชาวต่างชาติที่พำนักในอยุธยา
  • มีกรมย่อย เช่น กรมพระคลังสินค้า และกรมท่าซ้าย-ท่าขวา
  • มีการเปลี่ยนชื่อเป็นกรมโกษาธิบดีในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
  • ได้รับศักดินา 10,000 ไร่


4.กรมนา

  • รับผิดชอบจัดการที่ดิน ได้แก่
    • รังวัด
    • สำรวจทะเบียนที่ดิน
    • ออกใบเหยียบย่ำ ตราจอง โฉนด
    • ควบคุมการทำนาและรวบรวมข้อมูลน้ำฝนและต้นข้าวเพื่อรายงานแก่พระมหากษัตริย์
    • จัดหาพันธุ์ข้าวและควายให้ราษฎร
    • รับผิดชอบพระราชพิธีแรกนา ซึ่งมีต้นแบบจากอินเดีย
  • มีพระยาพลเทพเป็นผู้แทนพระเจ้าแผ่นดิน
  • มีศาลพิจารณาคดีเกี่ยวกับที่นา สัตว์พาหนะ และภาษีที่นา
  • การเก็บภาษีมี 2 ประเภท ได้แก่
    • นาฟางลอย (นาที่ท่วมน้ำ ผลผลิตไม่แน่นอน) เก็บภาษีเฉพาะเวลาที่เก็บเกี่ยวได้
    • นาคู่โค (นาที่ชลประทานดี ผลผลิตแน่นอน) เก็บภาษีตามเนื้อที่
  • ควบคุมกรมฉางหลวง ดูแลการซื้อข้าว อาหาร และสัตว์สำหรับราชการ
  • เกณฑ์สัตว์พาหนะจากราษฎรในเวลาสงคราม
  • เปลี่ยนชื่อเป็นกรมเกษตราธิการในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
  • ได้รับศักดินา 10,000 ไร่




3.การปฏิรูปการปกครองสมัยพระบรมไตรโลกนาถ

การปฏิรูปการปกครองในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ

    เมื่อมีการปฏิรูปการปกครองในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ได้มีการตั้งกรมใหญ่ขึ้น 2 กรม ซึ่งมีอัครมหาเสนาบดีเป็นผู้รับผิดชอบ ดังนี้


1.กรมกลาโหม

มีสมุหพระกลาโหมเป็นผู้ดูแลกิจการฝ่ายทหาร

2.กรมมหาดไทย

มีสมุหนายกเป็นผู้ดูแลกิจการฝ่ายพลเรือน

 

    ได้ควบคุมกรมจตุสดมภ์และปรับเปลี่ยนชื่อพร้อมเพิ่มหน้าที่ของแต่ละกรม ดังนี้


  • พระนครบาล (เดิม ขุนเมือง)
    • รับผิดชอบการปกครองท้องที่
    • ปราบปรามโจรผู้ร้าย
    • รักษาความสงบเรียบร้อยภายในราชธานี
    • ดูแลการดับเพลิงในราชธานีและเมืองใกล้เคียง
    • พิจารณาคดีความที่มีโทษร้ายแรง (มหันตโทษ)


  • พระธรรมาธิกรณ์ (เดิม ขุนวัง)
    • รับผิดชอบงานพระราชพิธีต่าง ๆ ในราชสำนัก
    • ดูแลงานธุรการ
    • ตัดสินคดีความ
    • แต่งตั้งยกกระบัตรไปปฏิบัติหน้าที่ในหัวเมืองต่าง ๆ


  • พระโกษาธิบดี (เดิม ขุนคลัง)
    • ดูแลการรับ-จ่ายและเก็บรักษาพระราชทรัพย์ที่ได้จากส่วยสาอากร
    • ควบคุมการค้าระหว่างประเทศ
    • ดูแลบัญชีวัสดุอุปกรณ์ เช่น อาวุธและเครื่องใช้ราชการ
    • ดูแลพระคลังหลวง
    • รับรองคณะทูตจากต่างประเทศ
    • ตัดสินคดีความที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ


  • พระเกษตราธิบดี (เดิม ขุนนา)
    • ตรวจตราและส่งเสริมการทำนาของราษฎร
    • เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางหลวงเพื่อใช้เป็นเสบียงในยามสงคราม
    • ตัดสินคดีความเกี่ยวกับที่นา
    • ออกกรรมสิทธิ์ที่นาให้แก่ราษฎร

 

    นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มกรมต่าง ๆ เข้ามาอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทั้ง 4 นี้ ด้วยเพื่อระบบการบริหารราชการมีความครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น




4.การเปลี่ยนแปลงในสมัยรัชกาลที่ 5

การเปลี่ยนแปลงในสมัยรัชกาลที่ 5

       การปกครองแบบจตุสดมภ์ซึ่งเป็นระบบบริหารราชการแผ่นดินที่เริ่มใช้ตั้งแต่ต้นอาณาจักรอยุธยา ได้สิ้นสุดลงในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เมื่อพระองค์ทรงดำเนินการปฏิรูปการปกครองในปี พ.ศ. 2435 สาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การสิ้นสุดของระบบนี้ ได้แก่


  • การแพร่ขยายของลัทธิจักรวรรดินิยมและการทำสนธิสัญญาเบาว์ริง

ทำให้ประเทศสยามจำเป็นต้องปรับปรุงระบบการค้า การจัดเก็บภาษี และระบบยุติธรรมให้ทันสมัยและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในระดับสากล

  • การเกิดขึ้นของรัฐชาติ (Nation State)

ซึ่งส่งผลให้อาณาจักรสยามขยายตัวอย่างมาก ระบบการปกครองแบบจตุสดมภ์จึงกลายเป็นระบบที่ล้าสมัยและไม่สามารถบริหารราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ความซับซ้อนของสังคมและภาระงานที่เพิ่มขึ้น

การบริหารราชการด้วยระบบจตุสดมภ์ไม่เพียงพอที่จะรองรับการจัดการราชการแผ่นดินในยุคที่มีความซับซ้อนสูงขึ้น

 

    ด้วยเหตุนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงยกเลิกระบบการปกครองแบบจตุสดมภ์ และสถาปนากระทรวงขึ้น 12 กระทรวงในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2435 เพื่อทำหน้าที่บริหารราชการแทนระบบเดิม ดังนี้


  1. กระทรวงมหาดไทย
  2. กระทรวงนครบาล
  3. กระทรวงโยธาธิการ
  4. กระทรวงธรรมการ
  5. กระทรวงเกษตรพานิชการ
  6. กระทรวงยุติธรรม
  7. กระทรวงมุรธาธร
  8. กระทรวงยุทธนาธิการ
  9. กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ
  10. กระทรวงการต่างประเทศ
  11. กระทรวงกลาโหม
  12. กระทรวงวัง

 

    การปกครองแบบจตุสดมภ์ เวียง วัง คลัง นา เป็นระบบการปกครองที่สำคัญในประวัติศาสตร์ไทย แม้จะสิ้นสุดลงในยุครัชกาลที่ 5 แต่การศึกษาแนวคิดนี้ช่วยให้เข้าใจรากฐานการปกครองและบริหารประเทศในอดีตได้อย่างชัดเจน

 

    เป็นอย่างไรกันบ้าง? หวังว่าหลังอ่านบทความนี้แล้ว น้อง ๆ จะเข้าใจ “การปกครองแบบจตุสดมภ์ กันมากขึ้นนะ 

    สำหรับใครที่กำลังมองหาที่ติวตัวต่อตัว หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็มาปรึกษาพี่ TUTOR VIP ได้นะ พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ


   บทความต่อไป TUTOR VIP จะมาแนะนำอะไรอีกนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ

 

ด้วยความร่วมมือของ TUTOR-VIP X Clearnote Thailand

 

สนใจเรียนพิเศษประวัติศาสตร์ตัวต่อตัว ติดต่อได้ที่👇

Line logo LINE ID: @tutorvip หรือคลิ๊ก https://lin.ee/UQ3gQwP
 
ดูอัตราค่าเรียนพิเศษได้ที่ : https://tutor-vip.com/course/learning-price/
 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save