สวัสดีน้อง ๆ ทุกคน แม้ช่วงนี้สถานการณ์ COVID-19 จะดีขึ้นแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเรียนในรูปแบบออนไลน์ได้เข้ามามามีบทบาทในปัจจุบันมากขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ หลายคนประสบปัญหากับการเรียนออนไลน์ อาทิ ไม่มีสมาธิจดจ่อ, ตั้งใจเรียนแล้วแต่ก็ไม่เข้าใจสักที บทความนี้พี่ TUTOR VIP เลยจะมาแนะนำเทคนิคดี ๆ ในการเรียนออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกัน
1. สร้างบรรยากาศให้เหมาะสมกับการเรียนรู้
การสร้างบรรยากาศให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ คือ การทำบางสิ่งเพื่อกระตุ้นให้ตัวเองกระตือรือร้นในการที่จะเรียนมากขึ้น โดยที่การทำสิ่งเหล่านั้นอาจไม่ได้ผลในทันทีแต่หากทำซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่องก็จะทำให้กลายเป็นนิสัยในที่สุด เช่น การแต่งตัวในชุดสบาย ๆ, การนั่งเรียนบนโต๊ะอ่านหนังสือ, การดื่มชากาแฟ หรือการใช้สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นที่ชอบ เป็นต้น
2. วางแผนการเรียนให้ชัดเจน
การวางแผนการเรียนให้ชัดเจนจะทำให้เราทราบว่าวันนี้จะต้องเรียนวิชาอะไรบ้าง, ใช้เวลากี่นาที โดยแผนที่ตั้งอาจตั้งเป็นแผนรายวันหรือรายสัปดาห์เพื่อให้เห็นภาพรวมในแต่ละวันได้ชัดเจน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจ่อกับการเรียนได้ดียิ่งขึ้น และยังเป็นการสร้างแรงจูงใจและท้าทายตัวเองได้ด้วย เพราะหากแผนวันนี้ไม่สำเร็จก็อาจจะส่งผลต่อวันอื่น ๆ ไปด้วย
3. อยู่ให้ห่างจากสมาร์ทโฟน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันสมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านการเรียน และการค้นคว้าหาความรู้ อย่างไรก็ตามมีงานวิจัยที่ชี้ว่าการวางสมาร์ทโฟนใกล้ ๆ ขณะที่เรียนหรืออ่านหนังสือจะทำให้ประสิทธิภาพในการจดจ่อลดลง
จากงานวิจัยของ คุณAdrian Ward นักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเท็กซัส ออสติน ได้ทำการทดลองให้ผู้เข้าร่วมทดลองแก้โจทย์ปัญหา โดยแบ่งผู้เข้าร่วมทดลองออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
- กลุ่มที่นำสมาร์ทโฟนไปวางไว้ในห้องอื่น
- กลุ่มที่นำสมาร์ทโฟนวางไว้บนโต๊เรียน
- กลุ่มที่นำสมาร์ทโฟนวางไว้ในกระเป๋าที่อยู่ใกล้ตัว
ผลปรากฏว่ากลุ่มที่ทำคะแนนสอบได้แย่ที่สุดคือ กลุ่มที่นำสมาร์ทโฟนวางไว้บนโต๊เรียน และกลุ่มที่คะแนนแย่รองลงมาคือ กลุ่มที่นำสมาร์ทโฟนวางไว้ในกระเป๋าที่อยู่ใกล้ตัว จึงอยากแนะนำให้น้อง ๆ วางสมาร์ทโฟนไว้ไกล ๆ ขณะที่ต้องการใช้สมาธิในการเรียน หรืออ่านหนังสือ แต่หากจำเป็นต้องนำสมาร์ทโฟนมาไว้ใกล้ตัวจริง ๆ ก็ให้ใช้ปิดการแจ้งเตือนของสมาร์ทโฟนชั่วคราว เพื่อไม่ให้มีเสียงแจ้งเตือนมารบกวนสมาธิ
4. จัดโต๊ะอ่านหนังสือให้มีเฉพาะสิ่งของที่จำเป็น
การมีสิ่งของวางบนโต๊ะอ่านหนังสือมากเกินไปทำให้ถูกดึงความสนใจได้ง่าย แม้สิ่งนั้นจะเป็นหนังสือเรียน หรือเครื่องเขียนก็ตาม บนโต๊ะอ่านหนังสือจึงควรมีแค่เฉพาะสิ่งที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น
5. ปรับอุณหภูมิห้องให้เหมาะสม
การปรับอุณหภูมิของห้องให้ไม่เย็น หรืออุ่นจนเกินไปเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้เราจดจ่อกับการเรียนได้ โดยอุณหภูมิห้องที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 22-25 องศาเซลเซียส
6. ชวนเพื่อนมาเรียนด้วยกัน
การเรียนออนไลน์คนเดียวนาน ๆ อาจทำให้การจดจ่อลดลงได้ง่าย รู้ตัวอีกทีก็อาจจะเผลอไถโทรศัพท์ไปเสียแล้ว การชวนเพื่อนมาเรียนออนไลน์ไปด้วยกันจึงเป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการเรียนออนไลน์ได้ เพราะจะได้มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันทั้ง การแชร์เป้าหมายในการเรียนร่วมกัน หรือการถามข้อสงสัยในบทเรียนร่วมกัน เป็นต้น
7. อย่าฝืนตัวเองเมื่อรู้สึกง่วง
บางครั้งการใช้สมาธิจดจ่อกับอะไรนาน ๆ ก็อาจทำให้เกิดความรู้สึกง่วงได้ เมื่อรู้สึกง่วงประสิทธิภาพในเรียนก็จะลดลง เมื่อรู้สึกง่วงให้งีบหลับประมาณ 10-20 นาที จะทำให้รู้สึกเฟรชขึ้น พร้อมใช้สมาธิจดจ่อกับการเรียนออนไลน์ต่อได้แล้ว แต่อย่าเผลองีบนานเกินไปล่ะ
8. เปลี่ยนอิริยาบถบ้าง
แม้จะไม่รู้สึกง่วง แต่การนั่งอยู่อิริยาบถเดิมนาน ๆ ย่อมไม่ดีแน่ นอกจากไม่ดีต่อร่างกายแล้ว ประสิทธิภาพในการจดจ่อยังลดลงด้วย เมื่อเริ่มรู้สึกล้าให้หยุดพักแล้วไปอาบน้ำ หรือเดินเล่นสักประมาณ 15 นาที เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
ที่มา: https://agaroot.co.jp/coaching/column/lose-concentration-study/
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้น้องๆ ที่กำลังเรียนออนไลน์อยู่ได้มีเทคนิคดี ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนมากขึ้นกันนะ
สำหรับน้องๆ ที่กำลังมองหาที่ติว หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็มาปรึกษาพี่ TUTOR VIP ได้นะ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ
บทความต่อไป TUTOR VIP จะมาแนะนำอะไรอีกนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ
ด้วยความร่วมมือของ TUTOR-VIP X Clearnote Thailand
บทความล่าสุด
สังคมและประวัติศาสตร์
สรุปพุทธประวัติแบบกระชับ!
สังคมและประวัติศาสตร์
สรุปรวม “ศาสนาสำคัญของโลก” ที่ต้องรู้!
สังคมและประวัติศาสตร์
รากฐานแห่ง“อารยธรรมอินเดีย” อารยธรรมที่ส่งต่อถึงปัจจุบัน