สวัสดีน้อง ๆ ทุกคน บทความนี้ พี่ TUTOR VIP จะพาไปศึกษาเรื่องราวของ “กฎหมายตราสามดวง” ประมวลกฎหมายฉบับแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์และถือเป็นรากฐานของกฎหมายไทยในปัจจุบัน ถ้าพร้อมแล้วตามไปศึกษาพร้อมกันในบทความเลย
กฎหมายตราสามดวงคืออะไร?
กฎหมายตราสามดวง คือ ประมวลกฎหมายฉบับแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ชำระและปรับปรุงกฎหมายต่าง ๆ ที่เคยใช้มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ แล้วนำมารวบรวมจัดเป็นหมวดหมู่
เมื่อสำเร็จแล้วได้ประทับดวงตราพระราชสีห์ พระคชสีห์ และบัวแก้วเป็นสำคัญ จึงเรียกว่า “กฎหมายตราสามดวง” หรืออีกชื่อหนึ่งว่า “ประมวลกฎหมายรัชกาลที่ 1” ยังสะท้อนประวัติศาสตร์ สังคม การเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของไทยได้เป็นอย่างดี
กฎหมายไทยได้รับอิทธิพลอย่างมากจาก “คัมภีร์พระธรรมศาสตร์” ซึ่งเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีรากฐานจากวัฒนธรรมอินเดียผ่านทางมอญ และเป็นหลักในการอำนวยความยุติธรรม ตัวบทกฎหมายในกฎหมายตราสามดวงจึงเป็นการผสมผสานกันระหว่าง พระธรรมศาสตร์ (ซึ่งเป็นแกนหลักสำคัญ), พระราชศาสตร์ (กฎหมายที่ตราเพิ่มเติมโดยยึดมูลคดีจากพระธรรมศาสตร์), และ พระราชนิติศาสตร์ หรือพระราชนิติคดี (การวินิจฉัยคดีความต่าง ๆ ที่รวบรวมไว้)
เนื้อหาสำคัญในกฎหมายตราสามดวง
กฎหมายตราสามดวง สะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างสังคมไทยในสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ที่ยึดระบบศักดินาเป็นหลัก
สาระสำคัญของกฎหมายตราสามดวง
- ระบบศักดินา: ศักดินากำหนดสิทธิ หน้าที่ และฐานะของคนทุกกลุ่มในสังคม
- ชนชั้นในสังคม: แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่
- ◦ ชนชั้นผู้ปกครอง: พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจสูงสุด และทรงปกครองโดยยึดหลักทศพิธราชธรรม
- ◦ ชนชั้นผู้ถูกปกครอง: ประกอบด้วย ไพร่และทาส
▪ ไพร่: เป็นชนส่วนใหญ่ของสังคม ถือเป็นสมบัติของมูลนาย และมี 2 ประเภทคือ
-
- ไพร่หลวง ไพร่ที่สังกัดวังหลวงหรือพระเจ้าแผ่นดิน ไพร่หลวงจะต้องถูกเกณฑ์เข้ารับราชการปีละ 6 เดือน
- ไพร่สม ไพร่ที่สังกัดบรรดาเจ้านายหรือขุนนางใหญ่น้อยทั้งหลายในยามปรกติก็ถูกเกณฑ์แรงงานหรือรับราชการ ถ้าเกิดศึกสงครามผู้เป็นชายก็จะต้องออกรบ
- กระบวนการยุติธรรมโบราณ
- ◦ มีการจัดระเบียบ เช่น พระธรรมนูญ, พระอัยการลักษณะรับฟ้อง
- ◦ ศาลในอดีตกระจายอยู่ตามหน่วยราชการ ไม่เป็นระบบเดียวกัน และไม่มีการแยกคดีแพ่ง คดีอาญา หรือคดีปกครอง
- ◦ ตัวบทกฎหมายถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และประชาชนไม่จำเป็นต้องรู้ ซึ่งเป็นเรื่องที่รู้เฉพาะชนชั้นปกครองและตุลาการเท่านั้น
- การยกเลิก: กฎหมายตราสามดวงถูกยกเลิกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องจากการปฏิรูปกฎหมายและการศาลครั้งใหญ่
กฎหมายฉบับสำคัญ 27 ฉบับ ในกฎหมายตราสามดวง ได้แก่
-
- พระทำนูน: กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับ เขตอำนาจศาล อำนาจหน้าที่ของขุนนางผู้พิพากษา การฟ้องคดี และอำนาจหน้าที่ของข้าราชการทั้งทหารและพลเรือน (เปรียบได้กับกฎหมายบริหารราชการแผ่นดินในปัจจุบัน)
- พระธรรมสาตร: กล่าวถึงตำนานการตั้งแผ่นดิน การกำเนิดรัฐ และเจ้าผู้ครองรัฐตามคติพราหมณ์ รวมถึง หลักการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษาตุลาการที่ดี โดยเน้นความรู้ ความเข้าใจในข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง การวางตัวเป็นกลาง ความซื่อสัตย์ และประเภทของมูลคดี
- หลักอินทภาษ: วางหลักธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษาตุลาการให้ ตัดสินคดีด้วยความเที่ยงธรรม ปราศจากอคติ 4 ประการ (ฉันทาคติ โทษาคติ ภยาคติ โมหคติ) และเน้นความรอบรู้ในวิธีพิจารณาความ
- วิวาทด่าตี: บทบัญญัติเกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย กำหนดโทษและค่าเสียหาย พร้อมทั้งสอดแทรกหลักเมตตา การให้อภัย และการรักษาความสัมพันธ์ภายในครอบครัว
- พระไอยการลักษณรับฟ้อง: กำหนด คุณสมบัติและอำนาจในการฟ้องคดี ลักษณะต้องห้าม 20 ประการที่เป็นเหตุให้ตัดฟ้อง (เช่น คดีอุทลุม) และลักษณะการตัดสำนวน ตัดพยาน และการประวิงคดี
- พระไอยการกู้นี่: บทบัญญัติเกี่ยวกับการ กู้ยืมเงิน 13 ประการ รวมถึงการกู้ยืมระหว่างเครือญาติ
- มรดก: บทบัญญัติเกี่ยวกับการจัดการและ แบ่งปันทรัพย์มรดก ให้แก่ทายาทโดยธรรม และการทำพินัยกรรม
- พระอายการลักษณอุธร: กำหนดหลักเกณฑ์การ อุทธรณ์คดีต่อศาลสูง และผลที่จะเกิดกับผู้พิพากษาศาลชั้นต้น รวมถึงความรับผิดชอบหากตัดสินผิดพลาด
- ลักษณตระลาการ: เน้นย้ำให้ผู้พิพากษาตุลาการ ปฏิบัติหน้าที่เที่ยงตรง ปราศจากอคติทั้งสี่ และกำหนดข้อพึงปฏิบัติ ข้อห้าม ในการปฏิบัติหน้าที่ของตุลาการและคู่ความ.
- พระไอยการลักษณ ผัว เมีย: บทบัญญัติเกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ของบุคคลในครอบครัว (สามี ภริยา บุตร บิดามารดา) ทั้งแพ่งและอาญา เช่น การสมรส การเป็นชู้ การข่มขืน และทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา
- พระไอยการลักษณภญาณ: บัญญัติเกี่ยวกับ ความสำคัญของพยาน บาปบุญคุณโทษสำหรับพยานเท็จ ประเภทของพยานบุคคลที่ไม่ควรรับฟัง (33 จำพวก) และลำดับความน่าเชื่อถือของพยาน (ทิพพยาน อุดรพยาน อุตริพยาน)
- พระไอยการลักขณโจร 1, 2: บทบัญญัติความผิดทางอาญาเกี่ยวกับทรัพย์ กำหนดลักษณะโจร 8 จำพวก (องคโจร 3, สมโจร 5) รวมถึงการปล้น ชิง ลัก และการกระทำผิดขั้นอุกฤษฎ์โทษ
- พระไอยการลักภา ลูกเมีย ผู้คน } ท่านบานผแนก: รวมบทบัญญัติ การลักพาตัว ลูกเมีย หรือทาสของผู้อื่น และ หลักเกณฑ์การแบ่งกำลังพล ของฝ่ายทหารและพลเรือน รวมถึงการทำทะเบียนหางว่าวและแบ่งปันบุตร
- พระไอยการทาษ: บทบัญญัติเกี่ยวกับ ทาส 7 ประการ (เช่น ทาสในเรือนเบี้ย, ทาสสินไถ่) การตกเป็นทาส การไถ่ถอน สิทธิหน้าที่ของทาสกับนายเงิน และระบุว่าทาสคือคนของพระมหากษัตริย์ที่นายเงินจะลงโทษถึงตายไม่ได้
- พระไอยการกระบดศึก 1, 2 ความหมายของกบฏศึกไม่จำกัดแค่การยึดอำนาจ แต่รวมถึง ความผิดร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ และความสงบเรียบร้อย เช่น ปล้นเผาเมือง ฆ่าบิดามารดา กำหนดโทษรุนแรง และการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพยามสงคราม
- กฎพระสงฆ 1, 2: มี 10 ข้อใหญ่ กำหนด หลักปฏิบัติและข้อห้ามสำหรับพระภิกษุสงฆ์ ให้ประพฤติตนเหมาะสมตามพระธรรมวินัย พร้อมบทลงโทษและตัวอย่างการกระทำผิด
- พระราชบัญญัติ: มี 22 ฉบับ เป็นกฎหมายที่ตราขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีเนื้อหาเกี่ยวกับการปกครอง การบริหารราชการแผ่นดิน การศาล และแนวทางการวินิจฉัยคดีความ
- นาทหารหัวเมือง: กำหนด ศักดินา ยศ และหน้าที่ของข้าราชการฝ่ายทหาร และข้าราชการหัวเมือง รวมถึงผู้ถือตราพระคชสีห์ (สมุหพระกลาโหม).
- ลักษณพีสูท ดำน้ำ ลุยเพลิง: เป็น มาตรการสุดท้ายในการตัดสินคดี เมื่อขาดพยานหลักฐานอื่น ๆ โดยใช้ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติเป็นเกณฑ์ (เช่น การลุยไฟ การดำน้ำ) มี 7 ประการ
- กฎมณเฑียรบาล 1, 2: บทบัญญัติเกี่ยวกับ พระราชฐาน พระราชวงศ์ การถวายความปลอดภัย การจัดลำดับยศและที่นั่งของเจ้านาย กฎระเบียบในพระบรมมหาราชวัง การบำเหน็จลงโทษข้าราชการ และแสดงถึง รากฐานขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมไทย
- ตำแหน่งนาพลเรือน: กำหนด ศักดินาตำแหน่ง ยศ และหน้าที่ของข้าราชการฝ่ายพลเรือน รวมถึงผู้ถือตราพระราชสีห์ (เจ้าพญาจักรีศรีองครักษสมุหะนายก) และตราบัวแก้ว (เจ้าพระยาพระคลัง)
- พระอายการอาชาหลวง 1, 2
-
◦ อาชาหลวง: ความผิดของขุนนางและราษฎรที่ ละเมิดคำสั่งพระมหากษัตริย์ การกระทำผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ ความมั่นคงของรัฐ และการทุจริตในราชการ
-
◦ อาชญาราษฎร์: การกระทำที่ ข่มเหงราษฎรด้วยกัน เช่น ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ และการทำให้เสียทรัพย์
-
- พระอายการเบดเสรจ: บทบัญญัติที่ครอบคลุมเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวพันกับวิถีชีวิตของราษฎร เช่น สิทธิหน้าที่ ความรับผิดชอบจากที่ดิน สัตว์พาหนะ การยืม ฝากทรัพย์ ซื้อขาย เช่า อุบัติเหตุจราจร การพนัน และอันตรายจากการทำคุณไสย
- กฏ 36 ข้อ: กฎหมายที่สืบทอดมาจากสมัยอยุธยา ส่วนใหญ่เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับ กระบวนการพิจารณาคดี.
- พระราชกำหนดเก่า 1, 2, 3, 4 และ 5: มี 65 ฉบับ เป็นกฎหมายที่สืบทอดมาจากสมัยอยุธยา เกี่ยวกับการปกครอง การบริหาร การศาล และการวินิจฉัยคดี โดยยกตัวอย่างคดีจริงและการวินิจฉัย
- พระราชกำหนดใหม่ 1, 2,3, 4 และ 5: มี 45 ฉบับ เป็นกฎหมายที่ตราขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีเนื้อหาคล้ายพระราชกำหนดเก่า
- พระไอยการพรมศักดิ: บทบัญญัติเกี่ยวกับการกำหนด ค่าตัวของบุคคลตามเพศ วัย สถานะ เพื่อคิดค่าสินไหมทดแทนกรณีทำให้ผู้อื่นเสียหายแก่ชีวิตหรือร่างกาย และหลักเกณฑ์การกำหนดค่าสินไหมทดแทนและค่าปรับโดยยึดศักดินา
บทบาทและอิทธิพลของกฎหมายตราสามดวงต่อระบบกฎหมายไทยในยุคปัจจุบัน
กฎหมายตราสามดวง ถือ เป็นต้นแบบของระบบกฎหมายไทยยุคใหม่แม้จะถูกยกเลิกไปในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) แต่มีอิทธิพลต่อการจัดระบบกฎหมายและการบริหารยุติธรรมในสมัยต่อมาอย่างมาก
ระบบศาลและการแบ่งประเภทคดีมีวิวัฒนาการมาจากหลักการพื้นฐานในกฎหมายตราสามดวง และยังสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายกับหลักธรรมะและจารีตประเพณีที่เป็นรากฐานของระบบกฎหมายไทยจนถึงปัจจุบัน
เป็นอย่างไรกันบ้าง? หวังว่าหลังอ่านบทความนี้แล้ว น้อง ๆ จะรู้จัก “กฎหมายตราสามดวง” กันมากขึ้นนะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่ติวตัวต่อตัว หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็มาปรึกษาพี่ TUTOR VIP ได้นะ พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ
บทความต่อไป TUTOR VIP จะมาแนะนำอะไรอีกนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ
ด้วยความร่วมมือของ TUTOR-VIP X Clearnote Thailand
บทความล่าสุด
สังคมและประวัติศาสตร์
พ.ศ. 2112 : การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 1 เกิดขึ้นได้อย่างไร?
สังคมและประวัติศาสตร์
กฎหมายตราสามดวงคืออะไร? ต้นกำเนิดระบบกฎหมายไทย
สังคมและประวัติศาสตร์
การปกครองเเบบจตุสดมภ์ : เวียง วัง คลัง นา จำง่ายแน่นอน!