เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 พ.ศ. 2310 บทเรียนทางประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ!

การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 พ.ศ. 2310 บทเรียนทางประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ

     สวัสดีน้อง ๆ ทุกคน บทความนี้ พี่ TUTOR VIP จะพาน้อง ๆ ย้อนไปในสมัยอยุธยาในช่วง  “การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญเหตุการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ถ้าพร้อมแล้วตามไปศึกษาพร้อมกันในบทความเลย

1.ภูมิหลังของกรุงศรีอยุธยาก่อนการเสียกรุงครั้งที่ 2

ภูมิหลังของกรุงศรีอยุธยาก่อนการเสียกรุงครั้งที่ 2

    ช่วงปลายสมัยราชวงศ์บ้านพลูหลวง อาณาจักรอยุธยาประสบปัญหาหลายประการ ดังนี้

  • การเมืองภายในสั่นคลอน : ขุนนางและกลุ่มอำนาจต่าง ๆ มีความขัดแย้งกัน การเปลี่ยนแปลงอำนาจเกิดขึ้นถี่ ทำให้การบริหารบ้านเมืองขาดเสถียรภาพ
  • ระบบเกณฑ์ไพร่อ่อนแอ : กำลังคนเพื่อการทหารไม่เพียงพอ หลายหัวเมืองไม่สามารถจัดส่งไพร่มาช่วยป้องกันกรุงได้เต็มที่
  • เศรษฐกิจถดถอย : การค้าขายที่เคยรุ่งเรืองลดลง สะสมปัญหาทั้งทางการเงินและการผลิต
  • พระเจ้าเอกทัศน์ในขณะนั้นไม่สามารถรวมศูนย์อำนาจได้อย่างเข้มแข็ง ทำให้ราชธานีไม่พร้อมต่อศึกใหญ่

    ในขณะเดียวกัน พม่าภายใต้ราชวงศ์โก้นบองที่พระเจ้าอลองพญาสถาปนาขึ้น กำลังเรืองอำนาจ พระเจ้ามังระ ผู้ครองราชย์หลังจากนั้น มีพระประสงค์จะล้างแค้นการศึกที่เคยล้มเหลว และมุ่งทำลายอยุธยาให้สิ้นซาก

2.เหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2310)

เหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2310)

การยกทัพของพม่า

    พ.ศ. 2307 พระเจ้ามังระส่งกองทัพพม่ามาโจมตีอยุธยาถึงสองทัพใหญ่

 

  • ทัพเหนือ นำโดยแม่ทัพเนเมียวสีหบดี ยกลงมาทางล้านนา
  • ทัพตะวันตก นำโดยมังมหานรธา ยกมาทางด่านพระเจดีย์สามองค์

    ทั้งสองทัพสามารถตีหัวเมืองรายทางได้อย่างต่อเนื่อง ก่อนจะเข้าประชิดกรุงศรีอยุธยา

 

การล้อมกรุง

    ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2309 กรุงศรีอยุธยาต้องเผชิญการล้อมอย่างเข้มงวด กองทัพพม่าสร้างป้อมล้อมกรุงกว่า 27 ป้อมรอบพระนคร ปิดกั้นเส้นทางลำเลียงเสบียงอาหาร และกำลังพล

    การล้อมและการทำลายพื้นที่เพาะปลูกจากกองทัพพม่าก่อให้เกิดวิกฤตข้าวยากหมากแพง, โรคภัยระบาด และการขาดขวัญกำลังใจของชาวเมืองทำให้การป้องกันยากยิ่งขึ้น แม้จะมีการเสริมกำแพงและใช้ปืนใหญ่ที่ได้รับการพัฒนาโดยวิศวกรชาวตะวันตก แต่ก็ไม่สามารถต้านทานได้

 

วันที่กรุงแตก

    จากการถูกปิดล้อมถึง 14 เดือน และแผนการขุดอุโมงค์ลอดกำแพงกรุงศรีอยุธยาของเนเมียวสีหบดี ในที่สุด วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2310 พม่าก็สามารถบุกเจาะกำแพงเข้าไปได้ กองทัพบุกเผาพระราชวัง วัดวาอาราม และบ้านเรือน ชาวเมืองถูกสังหารและกวาดต้อนเป็นเชลยไปยังพม่าหลายหมื่นคน กรุงศรีอยุธยาที่เคยรุ่งโรจน์กว่า 417 ปี จึงสิ้นสุดลงในกองเพลิง



3.ผลกระทบหลังเสียกรุงครั้งที่ 2

ผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังเสียกรุงครั้งที่ 2

  •  ความพินาศทางวัฒนธรรม

     พระราชวัง วัดวาอาราม และหอเก็บพระไตรปิฎกถูกเผาทำลาย พระพุทธรูปและศิลปวัตถุจำนวนมากถูกหลอมและขนย้ายไปพม่า มรดกทางศิลปกรรมสูญหายไปมหาศาล

  • การสูญเสียทรัพยากรมนุษย์

     พม่ากวาดต้อนชาวอยุธยาหลายหมื่นคนไปยังพม่า โดยเฉพาะช่างฝีมือและศิลปิน ทำให้อาณาจักรสูญเสียกำลังสร้างสรรค์ที่สำคัญ

  • การล่มสลายของราชธานี

     กรุงศรีอยุธยาไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาเป็นราชธานีได้อีก เมืองกลายเป็นเพียงซากปรักหักพัง และประชาชนแตกกระจัดกระจาย

  • การฟื้นชาติ

     ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี พระยาตาก (ภายหลังคือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) ได้รวบรวมผู้คนจากหัวเมืองตะวันออก กลับมาตั้งหลักและกอบกู้เอกราช ก่อตั้งกรุงธนบุรีขึ้นเป็นราชธานีใหม่




4.บทเรียนทางประวัติศาสตร์การเสียกรุงครั้งที่ 2

บทเรียนทางประวัติศาสตร์จากการเสียกรุงครั้งที่ 2

    เหตุการณ์นี้สะท้อนบทเรียนสำคัญหลายประการ เช่น

1.ความเข้มแข็งของระบบการปกครอง 

     หากบ้านเมืองอ่อนแอภายใน ต่อให้มีกำแพงเมืองใหญ่เพียงใด ก็ไม่สามารถต้านศัตรูภายนอกได้

2.ความยืดหยุ่นในยุทธศาสตร์ 

     พม่าปรับแผนจากความล้มเหลวในอดีต ใช้การล้อมยาวนานและเทคนิคขุดอุโมงค์ จนสามารถเอาชนะได้

3.ความสำคัญของการรวมพลังหลังวิกฤติ  

     แม้กรุงแตก แต่ความสามารถของคนไทยในการรวมตัวฟื้นชาติอย่างรวดเร็ว แสดงถึงพลังใจที่ไม่ยอมพ่ายแพ้

4.การตระหนักถึงบทเรียนทางประวัติศาสตร์ 

     เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงความจำเป็นในการมีผู้นำที่เข้มแข็ง ระบบราชการที่โปร่งใส และกองทัพที่พร้อมป้องกันประเทศ

 

    การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 พ.ศ. 2310 เป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทรงพลังในประวัติศาสตร์ไทยที่แสดงให้เห็นถึงผลจากความขัดแย้งภายในและความแข็งแกร่งของกองกำลังภายนอก เหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงความล้มเหลวในยุทธศาสตร์สงครามเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนล้ำค่าที่ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นของการมีความสามัคคี ความพร้อมทางทหารและการบริหารประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

 

    เป็นอย่างไรกันบ้าง? หวังว่าหลังอ่านบทความนี้แล้ว น้อง ๆ จะเข้าใจที่มาและบทเรียนจาก “การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2” กันมากขึ้นนะ 

    สำหรับใครที่กำลังมองหาที่ติวตัวต่อตัว หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็มาปรึกษาพี่ TUTOR VIP ได้นะ พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ


   บทความต่อไป TUTOR VIP จะมาแนะนำอะไรอีกนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ

 

ด้วยความร่วมมือของ TUTOR-VIP X Clearnote Thailand

 

สนใจเรียนพิเศษประวัติศาสตร์ตัวต่อตัว ติดต่อได้ที่👇

Line logo LINE ID: @tutorvip หรือคลิ๊ก https://lin.ee/UQ3gQwP
 
ดูอัตราค่าเรียนพิเศษได้ที่ : https://tutor-vip.com/course/learning-price/
 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save