แผนการเรียน ม.4 มีสายอะไรบ้าง? อัปเดตล่าสุดปี 2568

     สวัสดีน้องๆ ทุกคน ตอนนี้คงกำลังค้นหาตัวเองกันอยู่หรือเปล่าว่าเราอยากจะเรียนต่อในระดับ ม.4 ในสายการเรียนไหน? การที่ยังค้นหาตัวเองไม่เจอนั้นไม่ใช่เรื่องผิดอะไรนะเพียงแต่เราอาจจะยังไม่รู้ข้อมูลหรือยังไม่มีประสบการณ์ในสายวิชานั้นๆมากพอ วันนี้พี่ๆ Tutor-VIP เลยจะมาแนะนำแผนการเรียน ม.4 ว่ามีสายอะไรบ้าง เพื่อให้น้องๆได้ศึกษาข้อมูลเพื่อตัดสินใจเลือกแผนการเรียนที่ชอบ หรือเตรียมตัวทำคะแนนสอบเพื่อเข้าแผนการเรียน ม.4 ที่ตั้งเป้าเอาไว้ ถ้าพร้อมแล้ว ตามพี่ Tutor-VIP กันมาเลย!

ทำไมในระดับชั้น ม.4 ต้องแบ่งแผนการเรียน?

• เพื่อเตรียมตัวสำหรับศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย

     แน่นอนว่าเหตุผลหลักสำหรับการแบ่งแผนการเรียน ม.4 คือเรื่องของการเตรียมตัวสำหรับศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยหรือระดับอุดมศึกษา เพราะในบางคณะ/สาขา ต้องการคัดเลือกนักเรียนที่มีคุณสมบัติในสายการเรียนที่ตรงตามเกณฑ์ของคณะ/สาขา นั้นๆ และเป็นการปรับพื้นฐานความรู้เพื่อเตรียมพร้อมในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นด้วย

• เพื่อให้เราได้เรียนตรงตามความสนใจหรือความถนัดของนักเรียน

     การเลือกแผนการเรียน ม.4 จะช่วยให้นักเรียนได้ศึกษาในวิชาที่ตัวเราสนใจมากขึ้น เช่น ถ้าน้องๆ สนใจวิทยาศาสตร์จะได้เรียนวิชาฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยาแบบเจาะลึกมากขึ้น หรือ น้องๆ ที่สนใจภาษาต่างประเทศอาจเลือกเรียนสายศิลป์-ภาษา ซึ่งจะมีการเรียนภาษาต่างประเทศมากกว่า

แผนการเรียน ม.4 สายสามัญ มีอะไรบ้าง?

แผนการเรียน วิทย์-คณิต

     แผนการเรียน วิทย์-คณิต เป็นแผนการเรียนที่สามารถสอบเข้าในระดับมหาวิทยาลัยได้ทุกคณะ สาขาวิชา โดยมุ่งเน้นการเรียนในหมวดวิชาดังนี้

• หมวดวิชา วิทยาศาสตร์
  • ประกอบด้วยวิชา ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา

• หมวดวิชา คณิตศาสตร์
  • ประกอบด้วยวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน และ คณิตศาสตร์เพิ่มเติม

• หมวดวิชาอื่นๆ
  • เช่น ภาษาไทย, ภาษาอังกฤษ, คอมพิวเตอร์, สังคมศึกษา, พลศึกษา, ศิลปะและดนตรีเบื้องต้น

คุณลักษณะของผู้เรียนสายวิทย์-คณิต

• มีความสนใจในวิทยาศาสตร์ หรือ คณิตศาสตร์ เช่น ธรรมชาติ กฎของฟิสิกส์ ปฏิกิริยาเคมี โครงสร้างของสิ่งมีชีวิต หรือ การคำนวณ การแก้โจทย์ปัญหา
• ชอบการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา และการวิเคราะห์เชิงลึก
• มีความอยากรู้อยากเห็น ชอบการทดลอง มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ

ดูตัวอย่างคณะ/สาขาที่เปิดรับนักเรียนจากแผนการเรียน วิทย์-คณิต

แผนการเรียน ศิลป์-คำนวณ (คณิต-อังกฤษ)

     แผนการเรียน ศิลป์-คำนวณ เป็นแผนการเรียนยอดนิยมที่รองลงมาจาก แผนการเรียน วิทย์-คณิต ซึ่งจะมีทางเลือกในการสอบเข้าเรียนต่อคณะ/สาขาที่น้อยลงกว่าแผนการเรียน วิทย์-คณิต โดยจะเน้นเรียนในหมวดวิชาดังนี้

• หมวดวิชา คณิตศาสตร์
  • คณิตศาสตร์พื้นฐาน และคณิตศาสตร์เพิ่มเติม

• หมวดวิชา ภาษาอังกฤษ

• หมวดวิชา ภาษาต่างประเทศ
  • เช่น ภาษาจีน ญี่ปุ่น เกาหลี หรือฝรั่งเศส ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียน

• หมวดวิชาอื่นๆ
  • เช่น วิทยาศาสตร์พื้นฐาน, ภาษาไทย, คอมพิวเตอร์, สังคมศึกษา, พลศึกษา, ศิลปะและดนตรีเบื้องต้น

คุณลักษณะของผู้เรียนสายศิลป์-คำนวณ (คณิต-อังกฤษ)

• ชอบวิเคราะห์ คิดคำนวณ และการแก้ปัญหา
• ชอบในด้านการบริหารธุรกิจ การตลาด หรือการเงิน
• ชอบในการสื่อสาร การใช้ภาษาต่างประเทศ

ดูตัวอย่างคณะ/สาขาที่เปิดรับนักเรียนจากแผนการเรียน ศิลป์-คำนวณ

แผนการเรียน ศิลป์-ภาษา

     แผนการเรียน ศิลป์-ภาษา จะเน้นเรียนในหมวดวิชาภาษาต่างประเทศและวัฒนธรรมต่างๆ เช่น ภาษาอังกฤษ จีน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เยอรมัน เกาหลี บาลี อาหรับ สเปน ซึ่งในแต่ละโรงเรียนก็จะมีการแบ่งย่อยแต่ละภาษาที่แตกต่างกัน รวมไปถึงจะมีการเรียนในหมวดวิชาภาษาไทยและสังคมด้วย นอกจากนี้บางโรงเรียนจะมีการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ แต่จะเป็นเพียงเนื้อหาพื้นฐานเท่านั้น

คุณลักษณะของผู้เรียนสายศิลป์-ภาษา

• ชื่นชอบและสนใจในด้านภาษาและวัฒนธรรมต่างประเทศ
• ชอบในด้านการสื่อสาร พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่น
• มีความคิดสร้างสรรค์ค่อนข้างสูง

ดูตัวอย่างคณะ/สาขาที่เปิดรับนักเรียนจากแผนการเรียน ศิลป์-ภาษา

แผนการเรียน ศิลป์-สังคม (ไทย-สังคม)

     แผนการเรียน ศิลป์-สังคม หรือ ไทย-สังคม จะเน้นกลุ่มวิชาหลักๆได้แก่ กลุ่มวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ สังคมศึกษา ซึ่งจะครอบคลุมในเรื่อง ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ กฎหมาย การเมืองการปกครอง ปรัชญา ซึ่งจะเหมาะกับนักเรียนที่สนใจเรียนต่อในคณะ/สาขา นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เป็นต้น

คุณลักษณะของผู้เรียนสายศิลป์-สังคม (ไทย-สังคม)

• ชื่นชอบและสนใจในเรื่องของสังคม ประวัติศาสตร์ การเมืองการปกครอง หรือกฎหมาย
• ชอบในด้านการสื่อสาร พูดคุย อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่น
• ชอบในการศึกษาและเข้าใจพฤติกรรมมนุษย์ในสังคม

ดูตัวอย่างคณะ/สาขาที่เปิดรับนักเรียนจากแผนการเรียน ศิลป์-สังคม (ไทย-สังคม)

แผนการเรียน ม.4 แบบเฉพาะทาง

     ในปัจจุบันที่โลกของการศึกษาเปิดกว้างมากขึ้น บางโรงเรียนอาจมีการแบ่งสายการเรียน หรือ วิชาเอก เพื่อให้นักเรียนได้เลือกเรียนตามความสนใจหรือความถนัดเฉพาะทางมากขึ้น ซึ่งนักเรียนจะได้เรียนรู้และมีประสบการณ์เฉพาะทางมากกว่าการเรียนในห้องเรียนทั่วไป โดยพี่ๆ Tutor-VIP มีตัวอย่างโรงเรียนที่มีสายการเรียนแบบเฉพาะทางมาแนะนำดังนี้

โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ (Assumption Samutprakarn School)

มี 2 หลักสูตร 4 แผนการเรียน

• 1. หลักสูตรที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อในการจัดการเรียนรู้ Modern Language Program (MLP)
  • โดยภายในหลักสูตรจะมีโครงการ ACSP GEMS PROJECT: G-LTC (GEMS-Learner’s Transforming Courses) เพื่อเน้นการเรียนรู้ที่หลากหลาย สอดรับกับศักยภาพ ความถนัดและความสนใจของนักเรียน เพื่อมุ่งสร้างความเป็นพหุปัญญา โดยมี 2 แผนการเรียน คือ
  • แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย 5 วิชาเอก ดังนี้
    • วิชาเอกวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม
    • วิชาเอกวิทยาศาสตร์สุขภาพ
    • วิชาเอกพื้นฐานวิศวกรรมศาสตร์
    • วิชาเอกพื้นฐานสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
    • วิชาเอกพื้นฐานวิศวกรรมศาสตร์ ปัญญาประดิษฐ์
  • แผนการเรียนพหุศาสตร์ ประกอบด้วย 9 วิชาเอก ดังนี้
    • วิชาเอกคณิตศาสตร์ (สำหรับเศรษฐศาสตร์ บริหารธุรกิจ และการเป็นผู้ประกอบการ)
    • วิชาเอกภาษาญี่ปุ่น
    • วิชาเอกภาษาอังกฤษ
    • วิชาเอกภาษาจีน
    • วิชาเอกนิเทศศาสตร์และสื่อดิจิทัล
    • วิชาเอกดุริยางคศิลป์สากล
    • วิชาเอกศิลปการแสดง
    • วิชาเอกวิทยาการกีฬาและนันทนาการ
    • วิชาเอกรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์

• 2. หลักสูตรที่ใช้การจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ English Program (EP) หรือเรียกว่า หลักสูตร Modern Track English Program (M-TEP) โดยมี 2 แผนการเรียน คือ
  • แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ประกอบด้วย 4 วิชาเอก ดังนี้
    • วิทยาศาสตร์สุขภาพ
    • วิศวกรรมศาสตร์
    • บริหารธุรกิจ
    • การออกแบบสื่อและนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์
  • แผนการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อนานาชาติ ประกอบด้วย 4 วิชาเอก ดังนี้
    • ภาษาจีน
    • ภาษาญี่ปุ่น
    • บริหารธุรกิจ
    • การออกแบบสื่อและนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์

สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.acsp.ac.th/

โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน (Bangkok Christian College)

     สำหรับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนนั้น จะมีระบบการเรียนรูปแบบ “Track” ซึ่งเป็นการเรียนที่อ้างอิงตามสาขาวิชาในระดับมหาวิทยาลัย เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้และค้นพบตัวเองชัดเจนมากขึ้นและเตรียมพร้อมในการสร้างผลงาน Portfolio สำหรับยื่นเข้าสู่มหาวิทยาลัย ซึ่งระบบนี้ได้เปิดการเรียนการสอนอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 และได้รับความสนใจทั้งจากนักเรียนและผู้ปกครองเป็นอย่างมาก ซึ่ง Track จะมีจำนวน 15 Track ดังนี้

1. Track แพทย์ศาสตร์ และสาธารณสุขศาสตร์
2. Track วิศวกรรมชีวการแพทย์
3. Track วิศวกรรมศาสตร์
4. Track วิศวกรรมศาสตร์การบินและอากาศยาน
5. Track วิศวกรรมหุ่นยนต์และคอมพิวเตอร์
6. Track วิทยาศาสตร์
7. Track สถาปัตยกรรมศาสตร์
8. Track บริหารธุรกิจ พาณิชยศาสตร์ เศรษฐศาสตร์
9. Track สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์
10. Track ศิลปกรรมศาสตร์ จิตรกรรม ประติมากรรม
11. Track อักษรศาสตร์ ศิลปศาสตร์ มนุษยศาสตร์
12. Track นิเทศศาสตร์ ภาพยนตร์ และสื่อดิจิทัล
13. Track ศิลปะการประกอบอาหาร
14. Track ดุริยางคศิลป์
15. Track พลศึกษา

     การเรียนระบบ Track นั้น นักเรียนชั้นมัธยมปลายทุกคนจะต้องเลือก 1 Track โดยกำหนดให้เรียนวิชา Track จำนวน 3 วิชาใน 1 ภาคเรียนควบคู่ไปกับการเรียนวิชาพื้นฐาน โดยมีการวัดผลเป็นเกรดเช่นเดียวกัน และสามารถเปลี่ยน Track ได้ 2 ครั้ง ภายใน ม.5 เทอม 1 เพื่อไม่ให้กระทบกับการสร้าง Portfolio

สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.bcc.ac.th/

ขอบคุณเนื้อหาจากบทความ : https://www.dek-d.com/education/61958/

โรงเรียนโพธิสารพิทยากร (Potisarnpittayakorn School)

แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักสูตร 11 แผนการเรียนรู้ ดังนี้

• 1. กลุ่มแผนการเรียนด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ และ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • แผนการเรียนเตรียมแพทย์
  • แผนการเรียนเตรียมเภสัช-สหเวช
  • แผนการเรียนเตรียมวิศวะ
  • แผนการเรียนเตรียมสถาปัตย์
  • แผนการเรียนเตรียมวิทย์-คอม

• 2. กลุ่มแผนการเรียนด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์

• • แผนการเรียนเตรียมนิเทศ
  • แผนการเรียนเตรียมมนุษย์-ครุศาสตร์
  • แผนการเรียนเตรียมนิติ-รัฐศาสตร์
  • แผนการเรียนเตรียมบริหาร บัญชี และการบริการ
  • แผนการเรียนเตรียมศิลปกรรม
  • แผนการเรียนเตรียมมนุษย์-ครุศาสตร์ (การกีฬา)

สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.ps.ac.th/psth/

สรุปการเลือกแผนการเรียน ม.4

     เป็นอย่างไรกันบ้างทุกคน? พี่ๆคิดว่าน้องๆคงได้ข้อมูลในการตัดสินใจเลือกแผนการเรียน ม.4 ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว ทั้งนี้แผนการเรียนในตัวอย่างนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการเรียนในระดับชั้นมัธยมปลายในบางโรงเรียนเท่านั้น ซึ่งในแต่ละโรงเรียนอาจมีแผนการเรียนที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นควรศึกษาโครงสร้างหลักสูตรจากเว็บไซต์หรือสื่อโซเชียลมีเดียของโรงเรียนนั้นโดยตรงเพิ่มเติมนะ

     สุดท้ายนี้ พี่ๆ Tutor-VIP อยากจะขอฝากน้องๆ เพิ่มเติมว่าการเลือกแผนการเรียน ม.4 นั้น เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการเรียนที่ยากขึ้น หากน้องได้เข้าไปลองเรียนรู้ในสายการเรียนที่เลือกแล้วรู้สึกว่าไม่ชอบ ไม่ถนัด หรือคิดว่ายังไม่ใช่ตัวเองก็ไม่เป็นไร ขอแค่ให้น้องได้ลองเรียนรู้และค้นหาตัวเองต่อไป แล้วสักวันน้องจะได้เจอกับสิ่งที่ตัวเองชอบและตั้งใจทำสิ่งนั้นให้ประสบความสำเร็จ พี่ๆ Tutor-VIP ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนนะ สู้ๆ ^^