พลาดไม่ได้สำหรับใครที่อยากจะไปต่อ MBA ทั้งในต่างประเทศและประเทศไทย ที่ยังไงยังไงก็ต้องสอบ GMAT !! ในวันนี้พี่ ๆ ทีมงาน Tutor VIP ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับการสอบ GMAT ว่าสอบไปทำไม สอบยังไง ที่ไหน อย่างไหน บทความนี้มีคำตอบให้ทุกคนแน่นอน !
เลือกอ่านเนื้อหาที่ต้องการ
การสอบ GMAT คืออะไร
GMAT ย่อมากจาก Graduate Management Admission Test หรือก็คือ ข้อสอบวัดสามารถของผู้สนใจเข้าศึกษาต่อปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ ของประเทศสหรัฐอเมริกา และ คะแนน GMAT ยังสามารถใช้ยื่นเข้า MBA ทุกมหาวิทยาลัยในไทย ไม่ว่าจะเป็น MBA CU หรือ MBA TU และมหาลัยชั้นนำอื่น ๆ ทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย
คะแนน GMAT ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
คะแนน GMAT ใช้สำหรับยื่นศึกษาต่อ MBA ซึ่งเป็นที่นิยมมากในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ส่วนประเทศไทย คะแนน GMAT สามารถใช้แทนคะแนน CU-BEST, และ SMART-II ได้
ช่วงการสอบ GMAT
ข้อสอบ GMAT มีการจัดสอบตลอดทั้งปีในวันธรรมดา (จันทร์-ศุกร์) โดยผู้เข้าสอบจะได้ผลคะแนนหลังจากสอบเสร็จ 20 วัน โดยวันและเวลาในการสอบสามารถตรวจสอบทาง online ได้ก่อนตัดสินใจสมัครสอบ
ผู้ทดสอบสามารถสอบ GMAT ได้ทุกๆ 16 วัน แต่ไม่เกิน 5 ครั้งต่อปี และไม่เกิน 8 ครั้งตลอดทั้งชีวิต โดยคะแนนสอบสามารถเก็บไว้ได้ไม่เกิน 5 ปี
GMAT ต้องสอบอะไรบ้าง?
ข้อสอบจะมีทั้งหมด 4 ส่วน เวลาสอบทั้งหมด คือ 3 ชั่วโมง 30 นาที โดยทั้ง 4 ส่วนประกอบด้วย
- ส่วนที่ 1 ภาษาอังกฤษ หรือ Quantitative
ใช้เวลา 75 นาที โดยจะเป็นคำถามประเภทการอ่านเพื่อความเข้าใจ การใช้เหตุผล การแก้ไขประโยคให้สมบูรณ์ ทั้งหมด 41 ข้อ - ส่วนที่ 2 คณิตศาสตร์
ใช้เวลา 75 นาที โดยจะเป็นคำถามประเภทการวิเคราะห์ความเพียงพอของข้อมูล การแก้ไขโจทย์ปัญหา ทั้งหมด 37 ข้อ - ส่วนที่ 3 การเขียนเชิงวิเคราะห์ หรือ Analytical Writing
ใช้เวลา 30 นาที โดยคำถามจะให้เขียนบทความ 1 บท ซึ่งจะเป็นการเขียนวิเคราะห์การโต้ตอบ - ส่วนที่ 4 การให้เหตุผลเชิงบูรณาการ หรือ Integrated Reasoning
ใช้เวลาทั้งหมด 30 นาที โดยจะเวัดความสามารถในการแปลและวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ และการเสนอวิธีการแก้ไขปัญหาในรูปแบบต่างๆ เช่น การตีความข้อมูลในรูปแบบกราฟิก การวิเคราะห์เปรียบเทียบ และการวิเคราะห์ตาราง ทั้งหมด 12 ข้อ
โดยเราสามารถเลือกชุดข้อสอบได้ว่าจะทำส่วนไหนก่อน โดยจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ ได้แก่
- แบบที่ 1 การเขียนเชิงวิเคราะห์, การให้เหตุผลเชิงบูรณาการ, คณิตศาสตร์, ภาษาอังกฤษ (รูปแบบพื้นฐาน)
- แบบที่ 2 ภาษาอังกฤษ, คณิตศาสตร์, การให้เหตุผลเชิงบูรณาการ, การเขียนเชิงวิเคราะห์
- แบบที่ 3 คณิตศาสตร์, ภาษาอังกฤษ, การให้เหตุผลเชิงบูรณาการ, การเขียนเชิงวิเคราะห์
คะแนน GMAT มีความหมายอย่างไรบ้าง?
- 550 คะแนนขึ้นไป คือ Average GMAT Score
- 700 คะแนนขึ้นไป คือ Good GMAT score
- 740 คะแนนขึ้นไป คือ Excellent GMAT score
ค่าสอบและสถานที่สอบ GMAT
ผู้ที่ต้องการสอบ GMAT ต้องสมัครสอบผ่านทางเว็บไซต์ จากนั้นต้องชำระค่าสมัครสอบด้วยบัตรเครดิตหรือเดบิตเป็นจำนวนเงิน $250
ในประเทศไทยนั้นมีศูนย์สอบอยู่ 2 แห่ง คือ ที่กรุงเทพมหานครและเชียงใหม่
- ศูนย์สอบที่กรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ที่ชั้น 10 Bangkok Business Building
- ศูนย์สอบที่เชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่ถนนช้างคลาน
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับน้อง ๆ ที่วางแผนจะเรียนต่อป.โท ด้านการบริหารธุรกิจนะ
ส่วนใครที่กำลังมองหาที่ติวภาษาอังกฤษ หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็มาปรึกษาพี่ TUTOR VIP ได้นะ พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ
บทความต่อไป TUTOR VIP จะมาแนะนำอะไรอีกนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ
ด้วยความร่วมมือของ TUTOR-VIP X Clearnote Thailand
บทความล่าสุด
สังคมและประวัติศาสตร์
“อารยธรรมโรมัน” อารยธรรมที่ทรงอิทธิพลถึงปัจจุบัน
สังคมและประวัติศาสตร์
สรุป ‘อารยธรรมกรีก’ อารยธรรมโบราณที่มีเสน่ห์
สังคมและประวัติศาสตร์
เจาะลึก ‘อารยธรรมอียิปต์’! อารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ของโลก