สวัสดีน้องๆ ทุกคน บทความนี้ พี่ TUTOR VIP จะมาสรุปเกี่ยวกับ “สงครามเย็น” การต่อสู้ทางอุดมการณ์และการสนับสนุนพันธมิตร ถ้าพร้อมแล้วตามไปศึกษาพร้อมกันในบทความเลย!
สงครามเย็นคืออะไร?
สงครามเย็น (Cold War) คือ ช่วงเวลาความตึงเครียดและความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสองอภิมหาอำนาจหลักของโลกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คือ สหรัฐอเมริกาในฐานะผู้นำโลกเสรีประชาธิปไตยและระบบทุนนิยม กับสหภาพโซเวียตที่เป็นศูนย์กลางของโลกคอมมิวนิสต์ รวมถึงกลุ่มประเทศพันธมิตรของแต่ละฝ่าย สงครามเย็นมีลักษณะเด่นคือ ไม่มีการปะทะทางการทหารโดยตรงระหว่างสองฝ่ายหลัก แต่อาศัยการต่อสู้ทางอุดมการณ์ การแข่งขันด้านเทคโนโลยี การแข่งอาวุธนิวเคลียร์ การโฆษณาชวนเชื่อ การจารกรรม และสงครามตัวแทน (Proxy Wars) เช่น สงครามเกาหลีและสงครามเวียดนาม เพื่อขยายอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์
คำว่า “สงครามเย็น” มีต้นกำเนิดจากลักษณะสงครามที่ใช้การต่อสู้ทางจิตวิทยาและอำนาจ แทนที่จะใช้อาวุธทำสงครามโดยตรง ซึ่งความตึงเครียดเหล่านี้เกิดขึ้นยาวนานตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 1947 จนถึงปี ค.ศ. 1991 สิ้นสุดลงเมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลาย
สาเหตุของสงครามเย็น
สาเหตุของสงครามเย็นเกิดจากความแตกต่างอย่างลึกซึ้งของระบอบการปกครองและอุดมการณ์ทางการเมืองของสองมหาอำนาจ สหรัฐอเมริกา ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยและเศรษฐกิจทุนนิยมที่เน้นเสรีภาพปัจเจกชนและตลาดเสรี ขณะที่สหภาพโซเวียตใช้ระบบคอมมิวนิสต์แบบเผด็จการที่ควบคุมเศรษฐกิจและการเมืองโดยรัฐ ความแตกต่างเหล่านี้ก่อให้เกิดความไม่ไว้วางใจและความขัดแย้งรุนแรง เนื่องจากทั้งสองฝ่ายกังวลว่าอีกฝ่ายจะขยายอิทธิพลไปยังประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะในยุโรปและเอเชีย จึงมีการแข่งขันเพื่อสกัดกั้นและขยายอิทธิพลผ่านการสนับสนุนกลุ่มหรือรัฐบาลที่มีแนวคิดสอดคล้องกับตนในประเทศต่าง ๆ จนเกิดเป็นสงครามตัวแทน (Proxy Wars) ตัวอย่างเช่น สงครามเกาหลีและสงครามเวียดนาม
อีกสาเหตุสำคัญคือการแข่งขันทางทหารโดยเฉพาะการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ที่ทำให้เกิดสภาวะ “ดุลแห่งความหวาดกลัวซึ่งกันและกัน” (Mutually Assured Destruction) ทั้งสองฝ่ายต่างไม่กล้าปะทะกันโดยตรงเพราะเกรงต่อผลลัพธ์ที่จะเป็นหายนะ นอกจากนี้ การที่โซเวียตไม่ถอนกำลังออกจากเยอรมนีตะวันออกตามข้อตกลงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อต่อไป
การสนับสนุนพันธมิตรและการขยายอิทธิพล
ทั้งสองฝ่ายต่างตั้งพันธมิตรเพื่อเสริมสร้างอำนาจ สหรัฐอเมริกาเป็นแกนนำขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ก่อตั้งขึ้นในปี 1949 เพื่อเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างสหรัฐอเมริกา และประเทศยุโรปตะวันตก ป้องกันการขยายตัวของลัทธิคอมมิวนิสต์ ขณะที่โซเวียตและพันธมิตรในยุโรปตะวันออกก่อตั้งกติกาสัญญาวอร์ซอในปี 1955 เพื่อตอบโต้ NATO และรักษาอำนาจในยุโรปตะวันออก ผ่านการควบคุมและสนับสนุนพันธมิตรที่ใช้ระบบคอมมิวนิสต์
นอกจากการสนับสนุนทางทหารแล้ว สหรัฐอเมริกายังใช้มาตรการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจอย่างแผนมาร์แชลล์ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจยุโรปตะวันตกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และป้องกันการแพร่ขยายของคอมมิวนิสต์ อีกทั้งมีแนวคิดทฤษฎีโดมิโนที่นำมาใช้เป็นเหตุผลในการแทรกแซงประเทศต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศใดประเทศหนึ่งลุกขึ้นเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งนำไปสู่การเข้าร่วมในสงครามในภูมิภาคเอเชีย เช่น สงครามเวียดนามและสงครามเกาหลี
ผลที่เกิดขึ้นจากสงครามเย็น
ผลของสงครามเย็นทำให้โลกแบ่งขั้วอำนาจอย่างชัดเจน การแข่งขันไม่จำกัดเพียงด้านการเมืองเท่านั้น แต่ยังแผ่ขยายไปด้านเทคโนโลยีและการทหาร ตัวอย่างเช่น การแข่งขันด้านอวกาศ (Space Race) ที่สหรัฐอเมริกาสามารถส่งมนุษย์ขึ้นดวงจันทร์ได้สำเร็จในปี 1969 ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นแก่โลกเสรี ขณะเดียวกันก็มีการพัฒนาคลังอาวุธนิวเคลียร์มหาศาลที่สร้างภาวะ “ดุลแห่งความหวาดกลัวซึ่งกันและกัน” ที่ทำให้โลกต้องอยู่ในความวิตกกังวลต่อสงครามนิวเคลียร์ โดยแต่ละฝ่ายต่างเกรงกลัวการตอบโต้ซึ่งกันและกัน
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกระทบต่อนานาประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กลายเป็นเวทีสงครามตัวแทนแห่งอุดมการณ์ ตลอดจนเกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจในประเทศต่าง ๆ
สุดท้ายเมื่อปี 1991 สหภาพโซเวียตล่มสลาย โลกเข้าสู่ยุค “ระเบียบโลกเดียว” ที่สหรัฐอเมริกามีบทบาทเด่นชัดในฐานะอำนาจโลกหนึ่งเดียวที่มีอิทธิพลสูงสุดทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมือง สงครามเย็นจึงเป็นช่วงเวลาที่มีผลกระทบลึกซึ้งต่อโครงสร้างทางการเมือง เทคโนโลยี และเศรษฐกิจของโลกยุคสมัยใหม่ ทั้งยังสะท้อนความซับซ้อนของความขัดแย้งที่ครอบคลุมทุกมิติของสังคมโลก
บทบาทของประเทศไทยในสงครามเย็น
ประเทศไทยในสงครามเย็นเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐอเมริกา โดยมีบทบาทหลักในการต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์และสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยเสรีนิยม ตำแหน่งที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ของไทยทำให้สหรัฐฯ เลือกใช้เป็นฐานทัพสำคัญในช่วงสงครามเวียดนามและปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาค
ความร่วมมือทางการทหารและการเมือง
ไทยเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาป้องกันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEATO) ตั้งแต่ปี 1954 และทำข้อตกลงทวิภาคีกับสหรัฐอเมริกา โดยอนุญาตให้สหรัฐอเมริกาใช้ฐานทัพอากาศและส่งกองกำลังมาตั้งในไทย รวมทั้งไทยยังได้ส่งทหารไปร่วมรบในสงครามเวียดนามกับฝ่ายสหรัฐฯและพันธมิตร นอกจากนี้ไทยยังใช้ความช่วยเหลือจากสหรัฐฯในการพัฒนากองทัพและเศรษฐกิจประเทศอย่างกว้างขวาง โดยในช่วงทศวรรษ 1960 งบประมาณป้องกันประเทศของไทยได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯกว่าร้อยละ 50
เป็นอย่างไรกันบ้าง? หวังว่าหลังอ่านบทความนี้แล้ว น้อง ๆ จะได้รับความรู้เกี่ยวกับ “สงครามเย็น” กันมากขึ้นนะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่ติวตัวต่อตัว หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็มาปรึกษาพี่ TUTOR VIP ได้นะ พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ
บทความต่อไป TUTOR VIP จะมาแนะนำอะไรอีกนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ
ด้วยความร่วมมือของ TUTOR-VIP X Clearnote Thailand
บทความล่าสุด
สังคมและประวัติศาสตร์
สงครามเย็น : การต่อสู้ทางอุดมการณ์และการสนับสนุนพันธมิตร
สังคมและประวัติศาสตร์
Pearl Harbor ถึง Hiroshima: เหตุการณ์สำคัญในสงครามโลกครั้งที่ 2
สังคมและประวัติศาสตร์
1914-1918: ทำไมสงครามโลกครั้งที่ 1 ถึงเกิดขึ้น และจบลงอย่างไร?