รัชกาลที่ 1: ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี และกำเนิดกรุงรัตนโกสินทร์!

รัชกาลที่ 1 ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีและกำเนิดกรุงรัตนโกสินทร์

     สวัสดีทุกคน บทความนี้ พี่ TUTOR VIP จะพาไปศึกษาพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช” หรือ “รัชกาลที่ 1” ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ผู้ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์และวางรากฐานความมั่นคงของราชอาณาจักรไทยในยุคใหม่ เรื่องราวของพระองค์จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง? ตามไปศึกษาพร้อมกันในบทความเลย

1. ประวัติส่วนพระองค์ รัชกาลที่ 1

ประวัติส่วนพระองค์

    พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือ รัชกาลที่ 1 พระนามเดิมของพระองค์คือ “ทองด้วง” หรือ “ด้วง” ประสูติ ณ กรุงศรีอยุธยา ในราวปี พ.ศ. 2279 ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระราชบิดาคือพระอักษรสุนทร (ทองดี) ข้าราชการกรมอาลักษณ์ ส่วนพระราชมารดาคือท่านหยก (ดาวเรือง) ธิดาคนโตของคหบดีชาวจีนฮกเกี้ยน

    พระองค์เริ่มรับราชการในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แห่งกรุงธนบุรี ได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชวรินทร์ และได้รับการเลื่อนพระบรมราชอิสริยยศมาเรื่อย ๆ เนื่องจากได้รับความดีความชอบจากบทบาทที่ได้รับ จนมาเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก มีบทบาทสำคัญในการปราบปรามกบฏและศึกสงครามต่าง ๆ

    ภายหลังเกิดความวุ่นวายทางการเมืองในกรุงธนบุรีช่วงปลาย พ.ศ. 2324 พระองค์ได้ปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นเป็นราชธานี และเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี

2. การสถาปนาราชวงศ์จักรี รัชกาลที่ 1

การสถาปนาราชวงศ์จักรี

    ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2324 บ้านเมืองตกอยู่ในภาวะระส่ำระสาย ภายหลังการสิ้นสุดรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อำนาจรัฐและการปกครองตกอยู่ในสภาพไร้ศูนย์กลาง ขุนนางและแม่ทัพนายกองต่างมีความเห็นร่วมกันว่า จำเป็นต้องมีผู้นำที่มีบุญบารมีและความสามารถในการรวบรวมบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่น

    สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ซึ่งดำรงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่และขุนนางผู้มีอำนาจสูงสุดในสมัยกรุงธนบุรี เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการศึกสงคราม และได้รับความเคารพนับถือจากทั้งกองทัพและขุนนาง ได้รับการอัญเชิญจากเหล่าขุนนางและแม่ทัพให้ขึ้นครองราชสมบัติ

    ในวันที่ 6 เมษายน พุทธศักราช 2325 สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกจึงเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี ทรงพระนามว่า “พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช”

    พระองค์ได้ทรงมีพระราชดำริให้ย้ายราชธานีจากกรุงธนบุรีไปยังฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ณ บริเวณเมืองบางกอกเดิม ซึ่งทรงเห็นว่าเหมาะสมในทางยุทธศาสตร์และการปกครอง ต่อมาได้มีการประกอบพระราชพิธีฝังเสาหลักเมืองเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325  ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกรุงรัตนโกสินทร์และราชวงศ์จักรีที่สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

3. การก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1

การก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์

    ภายหลังขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 2325 สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกซึ่งเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงพิจารณาเห็นว่า กรุงธนบุรีซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา มีลักษณะไม่เหมาะสมต่อการป้องกันราชธานี ทั้งในด้านพื้นที่จำกัดและความไม่สมดุลทางยุทธศาสตร์ พระองค์จึงมีพระราชดำริให้ย้ายราชธานีไปยังฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของเมืองบางกอกในสมัยอยุธยา

    ชัยภูมิฝั่งตะวันออกนั้นมีลักษณะโดดเด่น เพราะมีแม่น้ำเจ้าพระยาล้อมรอบเป็นคูเมืองธรรมชาติ สามารถวางผังเมืองได้เป็นระบบ และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการขยายพระนครในอนาคต พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้เริ่มก่อสร้างพระราชวังหลวง (พระบรมมหาราชวัง) และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์กลางของพระนครใหม่

    นอกจากนี้ ยังทรงโปรดให้อัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ซึ่งเดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดอรุณราชวรารามฝั่งธนบุรี มาประดิษฐาน ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อเป็นสิริมงคลและสัญลักษณ์แห่งราชอำนาจทางพระพุทธศาสนา

    เมื่อถึงวันที่ 21 เมษายน พุทธศักราช 2325 ได้มีพระราชพิธีฝังเสาหลักเมือง และประกาศสถาปนาเมืองหลวงใหม่อย่างเป็นทางการในพระนามว่า
“กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลก ภพนพรัตน์ ราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศมหาสถาน อมรพิมาน อวตารสถิต สักกะทัตติยะวิษณุกรรมประสิทธิ์”

    กรุงรัตนโกสินทร์จึงถือกำเนิดขึ้นในฐานะราชธานีแห่งใหม่ อันเป็นศูนย์กลางของการปกครอง พระศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และอารยธรรมที่รุ่งเรืองเรื่อยมาจนปัจจุบัน

 

พระราชกรณียกิจสำคัญ

     หลังจากขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงมีพระราชกรณียกิจในการฟื้นฟูราชอาณาจักรอย่างรอบด้าน ทั้งด้านการเมือง การปกครอง การศาสนา วัฒนธรรม และความมั่นคงของชาติ ภายใต้สภาพแวดล้อมของประเทศที่เพิ่งผ่านสงครามและความไม่สงบมาเป็นเวลานาน ดังนี้

4. พระราชกรณียกิจสำคัญ รัชกาลที่ 1

1. การฟื้นฟูการปกครองและกฎหมาย

  • ทรงฟื้นฟูระบบราชการแผ่นดินตามแบบแผนจตุสดมภ์ ได้แก่

เวียง (ฝ่ายความมั่นคง), วัง (ราชสำนัก), คลัง (เศรษฐกิจ/การเงิน) และ นา (การเกษตร)

  • จัดระบบการบริหารงานโดยแต่งตั้งขุนนางให้มีหน้าที่และความรับผิดชอบที่ชัดเจน
  • โปรดให้มีการ ชำระกฎหมายเก่าและตรากฎหมายใหม่ เพื่อความเป็นระเบียบแบบแผน ก่อให้เกิด “กฎหมายตราสามดวง” ซึ่งใช้เป็นหลักในการปกครองราชอาณาจักรในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น

2. การทหารและการป้องกันราชอาณาจักร

  • ทรงเป็นผู้นำในการป้องกันแผ่นดินจากศัตรู โดยเฉพาะการรุกรานของพม่า
  • สงครามสำคัญ เช่น สงครามเก้าทัพ (พ.ศ. 2328) ซึ่งทรงบัญชาการร่วมกับพระอนุชา (เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร – รัชกาลที่ 2 ในภายหลัง)
  • ปรับปรุงระบบกองทัพ จัดระเบียบกำลังพลให้เป็นระบบ มีประสิทธิภาพในการรบ
4.3 พระราชกรณียกิจสำคัญ รัชกาลที่ 1

3. การฟื้นฟูพระพุทธศาสนา

  • โปรดให้จัดการสังคายนาพระไตรปิฎกขึ้นใหม่ เนื่องจากคัมภีร์บางส่วนได้ถูกทำลายไปจากสงครามตั้งแต่การล่มสลายของกรุงศรีอยุธยา
  • จัดทำ พระไตรปิฎกฉบับหลวง เพื่อใช้เป็นมาตรฐานของพระพุทธศาสนา
  • จัดระเบียบคณะสงฆ์ แบ่งนิกาย และควบคุมพระภิกษุให้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย
  • ส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมในวัดหลวง
4.4 พระราชกรณียกิจสำคัญ รัชกาลที่ 1

4. การบูรณะและสร้างวัดวาอาราม

  • โปรดให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดสำคัญที่ทรุดโทรมจากสงคราม เช่น วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์, วัดสระเกศ
  • ทรงสร้างวัดใหม่ที่สำคัญ ได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ซึ่งเป็นศูนย์กลางพระราชศรัทธา, วัดสุทัศนเทพวราราม
  • อัญเชิญ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) จากกรุงธนบุรีมาประดิษฐาน ณ วัดพระแก้ว เพื่อเป็นสิริมงคลแก่พระนคร
4.5 พระราชกรณียกิจสำคัญ รัชกาลที่ 1

5. การฟื้นฟูวรรณกรรมและศิลปวัฒนธรรม

  • โปรดให้ ชุบชีวิตงานวรรณกรรมและนาฏศิลป์ ที่สูญหายหรือเสื่อมโทรม

ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ในการรื้อฟื้นบทละครหลวง เช่น รามเกียรติ์, อิเหนา, ดาหลัง

  • ส่งเสริม วรรณคดีแบบร้อยกรองและบทละคร ซึ่งกลายเป็นรากฐานวรรณกรรมไทยสมัยใหม่
  • สนับสนุนงานศิลป์ด้านจิตรกรรม ประติมากรรม และงานสถาปัตยกรรมในพระบรมมหาราชวังและวัดหลวง

 

5. มรดกทางประวัติศาสตร์ รัชกาลที่ 1

มรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

    พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงเป็นผู้วางรากฐานที่มั่นคงให้แก่ราชอาณาจักรในยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ทั้งในด้านการเมือง การปกครอง กฎหมาย ศาสนา และวัฒนธรรม ซึ่งกลายเป็นรากฐานของความเป็นรัฐชาติสมัยใหม่ในเวลาต่อมา พระองค์ทรงสถาปนา “กรุงเทพมหานครฯ” ขึ้นเป็นราชธานีใหม่เมื่อ พ.ศ. 2325 โดยเลือกชัยภูมิทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีความเหมาะสมในด้านการป้องกัน การบริหารราชการ และการขยายพระนครในอนาคต กรุงรัตนโกสินทร์จึงกลายเป็นศูนย์กลางของอำนาจ การค้า ศาสนา และวัฒนธรรมของแผ่นดิน 

    ด้านกฎหมาย พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีการ ชำระและประมวลกฎหมายเก่า ที่กระจัดกระจาย เพื่อจัดระเบียบใหม่ในรูปของ “กฎหมายตราสามดวง” ซึ่งประกอบด้วยหลักกฎหมายจากกรุงศรีอยุธยา และบทบัญญัติที่เพิ่มเติมขึ้นใหม่ให้เหมาะสมกับสภาวะสมัยต้นรัตนโกสินทร์ กฎหมายชุดนี้ได้กลายเป็นพื้นฐานสำคัญของระบบกฎหมายไทยในเวลาต่อมา   

    มรดกทางวัฒนธรรมของพระองค์ยังปรากฏอย่างเด่นชัดในงานศิลปกรรม สถาปัตยกรรม วรรณกรรม และประเพณีราชสำนัก โดยเฉพาะ การสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดาราม, การฟื้นฟูพระพุทธศาสนา, และ การรื้อฟื้นวรรณกรรมคลาสสิก เช่น รามเกียรติ์ และ อิเหนา ล้วนเป็นแบบแผนที่ถ่ายทอดต่อมายังรัชกาลหลัง ๆ พระราชกรณียกิจของพระองค์จึงไม่เพียงมีผลเฉพาะในยุคของพระองค์เท่านั้น หากแต่ยังส่งอิทธิพลต่อรากฐานของชาติไทยในด้านโครงสร้างรัฐ ศาสนา และวัฒนธรรมมาจนถึงปัจจุบัน

 

    เป็นอย่างไรกันบ้าง? หวังว่าหลังอ่านบทความนี้แล้ว น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติและพระปรีชาสามารถของรัชกาลที่ 1 กันมากขึ้นนะ 

    สำหรับใครที่กำลังมองหาที่ติวตัวต่อตัว หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็มาปรึกษาพี่ TUTOR VIP ได้นะ พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ


   บทความต่อไป TUTOR VIP จะมาแนะนำอะไรอีกนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ

 

ด้วยความร่วมมือของ TUTOR-VIP X Clearnote Thailand

 

สนใจเรียนพิเศษประวัติศาสตร์ตัวต่อตัว ติดต่อได้ที่👇

Line logo LINE ID: @tutorvip หรือคลิ๊ก https://lin.ee/UQ3gQwP
 
ดูอัตราค่าเรียนพิเศษได้ที่ : https://tutor-vip.com/course/learning-price/
 

บทความล่าสุด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save