รวม 10 นักคิด / นักปราชญ์กรีกในตำนาน!

รวม 10 นักคิด, นักปราชญ์กรีกในตำนาน

     นักปราชญ์กรีกโบราณถือเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความสำคัญต่อปรัชญาตะวันตกและการคิดวิเคราะห์ที่ส่งผลมาถึงในยุคปัจจุบัน นักปราชญ์เหล่านี้ได้สร้างแนวคิดและทฤษฎีที่มีอิทธิพลต่อศาสตร์หลายแขนง เช่น ปรัชญา วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ 

    บทความนี้ พี่ TUTOR VIP จะพาน้อง ๆ ไปรู้จักกับ “10 นักคิด/นักปราชญ์กรีกในตำนาน” ที่มีชื่อเสียงและผลงานที่โดดเด่น จะมีท่านใดบ้างตามไปดูในบทความกันเลย

1.โสกราตีส (Socrates)

1. โสกราตีส (Socrates) ประมาณ 470–399 ก่อนคริสต์ศักราช

    โสกราตีสเป็นหนึ่งในนักปราชญ์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ แม้ว่าจะไม่ได้เขียนงานปรัชญาไว้ด้วยตัวเอง แต่แนวคิดของเขาได้รับการบันทึกโดยลูกศิษย์ เช่น เพลโต และเซโนฟอน 

    โสกราตีสยังเป็นผู้บุกเบิก “วิธีการโสกราตีส” (Socratic Method) ซึ่งเป็นกระบวนการตั้งคำถามอย่างเป็นระบบเพื่อค้นหาความจริงและกระตุ้นการคิดเชิงวิพากษ์ ในช่วงบั้นปลายชีวิตเขาได้ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยถูกกล่าวหาว่าบ่อนทำลายศีลธรรมของเยาวชนและไม่เคารพเทพเจ้าแห่งเอเธนส์

ผลงานเด่น: ไม่มีงานเขียนโดยตรง แต่แนวคิดของเขาถูกถ่ายทอดผ่านงานของเพลโต เช่น Apology และ The Republic

2.เพลโต (Plato)

2. เพลโต (Plato)  427 – 347 ปีก่อนคริสตกาล

    เพลโตเป็นศิษย์เอกของโสกราตีส และเป็นผู้ก่อตั้งสำนักปรัชญา “Academy” ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงแห่งแรกของโลกตะวันตก 

    เพลโตยังเป็นนักคิดที่บุกเบิกแนวคิดเกี่ยวกับรูปแบบ (Forms) ซึ่งอธิบายว่าความจริงที่แท้จริงไม่ได้อยู่ในโลกวัตถุ แต่เป็นอุดมคติที่เหนือกว่าสิ่งที่เราเห็น ยังเป็นนักเขียนปรัชญาที่ทรงอิทธิพล ผลงานของเขามักเขียนในรูปแบบบทสนทนา

ผลงานเด่น: The Republic (สาธารณรัฐ), The Symposium, Phaedrus

3.อริสโตเติล (Aristotle)

3. อริสโตเติล (Aristotle) 384 – 322 ปีก่อนคริสตกาล

    อริสโตเติลเป็นศิษย์ของเพลโต และต่อมาได้กลายเป็นอาจารย์ของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช เขาเป็นนักคิดที่วางรากฐานของตรรกศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และจริยศาสตร์ ผลงานของเขามีอิทธิพลต่อการศึกษาของยุโรปในยุคกลางและต่อมาจนถึงยุคปัจจุบัน

    ทฤษฎีที่สำคัญของเพลโตได้แก่ ทฤษฎีเหตุและผล (Theory of Causality) ที่อธิบายว่าทุกสิ่งมีเหตุผลของการเกิดขึ้น และทฤษฎีตรรกศาสตร์ (Logic) ซึ่งเป็นรากฐานของเหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์

ผลงานเด่น: Nicomachean Ethics, Politics, และ Metaphysics

4.เฮราคลีตุส (Heraclitus)

4. เฮราคลีตุส (Heraclitus) 535 – 475 ปีก่อนคริสตกาล

    เฮราคลีตุสเป็นนักปรัชญาที่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมชาติของทุกสิ่ง และเป็นที่รู้จักจากคำกล่าวที่ว่า “ไม่มีใครสามารถก้าวลงไปในแม่น้ำสายเดียวกันได้เป็นครั้งที่สอง” เขามีแนวคิดเกี่ยวกับจักรวาลที่ขับเคลื่อนด้วยความขัดแย้งและการเปลี่ยนแปลง

    ทฤษฎีการเปลี่ยนแปลง (Doctrine of Flux) ที่ระบุว่าทุกสิ่งในโลกอยู่ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

ผลงานเด่น: On Nature (ผลงานสูญหายไปบางส่วน)

5.ปารเมนิดีส (Parmenides)

5. ปารเมนิดีส (Parmenides) ประมาณ 515 – 450 ปีก่อนคริสตกาล

    ปารเมนิดีสเสนอแนวคิดที่ขัดแย้งกับเฮราคลีตุส โดยเขาเชื่อว่า “การเปลี่ยนแปลงไม่มีอยู่จริง” และ “สรรพสิ่งคงอยู่เหมือนเดิมตลอดไป”   เกิดเป็น ทฤษฎีเอกภาพ (Theory of Being) ที่กล่าวว่าความจริงเป็นสิ่งเดียวกันทั้งหมดและไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นแนวคิดที่มีมีอิทธิพลต่อพัฒนาการของปรัชญาอภิปรัชญา

  ผลงานเด่น: On Nature (ใช้ชื่อเดียวกันกับเฮราคลีตุส แต่นำเสนอเนื้อหาและมุมมองทางปรัชญาแตกต่างกันมาก)

6.พีทาโกรัส (Pythagoras)

6. พีทาโกรัส (Pythagoras) ประมาณ 570 – 495 ปีก่อนคริสตกาล

    พีทาโกรัสเป็นทั้งนักคณิตศาสตร์และนักปรัชญา เขาเป็นผู้คิดค้นทฤษฎีบทพีทาโกรัสและเชื่อว่าเลขมีบทบาทสำคัญในการทำความเข้าใจจักรวาล

ผลงานเด่น: ไม่มีงานเขียนโดยตรง แต่แนวคิดของเขาถูกบันทึกและพัฒนาต่อโดยสาวกพีทาโกเรียน (Pythagoreans) และนักประวัติศาสตร์ชาวกรีก เช่น เซโนฟอน และ ไดออจอินีส ผลงานของเขาจึงมีอิทธิพลต่อคณิตศาสตร์ ปรัชญา และวิทยาศาสตร์อย่างลึกซึ้ง แม้ไม่มีหลักฐานงานเขียนโดยตรง

7.ไดออจอินีส (Diogenes)

7. ไดออจอินีส (Diogenes) ประมาณ 412–323 ปีก่อนคริสตกาล

    ไดออจอินีสแห่งซิโนเปเป็นนักปรัชญาสัจนิยม (Cynicism) ที่โด่งดังในยุคกรีกโบราณ เขาเกิดที่เมืองซิโนเป (Sinope) บนชายฝั่งทะเลดำ แต่ถูกเนรเทศออกจากเมือง ด้วยข้อหาปลอมแปลงเงินตรา หลังจากนั้นเขาเดินทางมาที่กรุงเอเธนส์และเริ่มต้นชีวิตแบบสมถะเรียบง่ายตามแนวคิดแบบสัจนิยม (Cynicism) ซึ่งได้รับอิทธิพลจากอันติสเทเนส (Antisthenes) ผู้เป็นศิษย์ของโสกราตีส 

    ไดออจอินีสมีชื่อเสียงในฐานะนักปรัชญาที่ต่อต้านบรรทัดฐานทางสังคมและค่านิยมทั่วไป เขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายถึงขั้นนอนในถังขยะหรือภาชนะดินเผา และแสดงพฤติกรรมที่ท้าทาย เช่น การเดินถือโคมไฟในตอนกลางวันเพื่อ “ค้นหาคนที่ซื่อสัตย์” เขายังมีความกล้าหาญในการวิพากษ์วิจารณ์ผู้มีอำนาจ รวมถึงพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช 

     แนวคิดของเขามุ่งเน้นการปลดปล่อยมนุษย์จากความยึดติดกับวัตถุและความสะดวกสบาย โดยเชื่อว่าความสุขที่แท้จริงเกิดจากการดำเนินชีวิตตามธรรมชาติและการลดความต้องการทางร่างกายและจิตใจ

ผลงานเด่น:

  • แนวคิดเรื่อง การใช้ชีวิตตามธรรมชาติ และ ความเรียบง่าย 
  • งานเขียนบางส่วน เช่น The Republic ซึ่งเสนอภาพของยูโทเปียแบบอนาธิปไตย



8. อีพิคูรัส (Epicurus)

8. อีพิคูรัส (Epicurus) 341–270 ปีก่อนคริสตกาล

    อีพิคูรัสเกิดที่เกาะซามอส (Samos) และได้ศึกษาปรัชญาจาก Pamphilus นักปรัชญาผู้ที่เชื่อในแนวคิดของเพลโต หลังจากเรียนรู้แนวคิดของเดโมคริตัสเกี่ยวกับอะตอม อีพิคูรัสได้พัฒนาแนวคิดของตัวเองจนกลายเป็นผู้ก่อตั้งลัทธิเอพิคูเรียน (Epicureanism) 

    อีพิคูรัสสอนว่าความสุขคือเป้าหมายสูงสุดของชีวิต ซึ่งสามารถบรรลุได้ผ่านการหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจ ลัทธิเอพิคูเรียนเน้นการดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย การสร้างมิตรภาพ และการแสวงหาความสงบในจิตใจ

    อีพิคูรัสยังปฏิเสธแนวคิดเรื่องเทพเจ้าที่มีบทบาทในการลงโทษมนุษย์ และเชื่อว่าความตายไม่ควรเป็นสิ่งที่เรากลัว เพราะมันคือจุดสิ้นสุดของทั้งความสุขและความเจ็บปวด

ผลงานเด่น: 

  • แนวคิดเรื่อง Ataraxia หรือความสงบภายใน 
  • งานเขียนสามฉบับที่ยังหลงเหลืออยู่ ได้แก่ Letter to Menoeceus, Letter to Herodotus และ Letter to Pythocles



9. เซโนแห่งซิเทียม (Zero of Citium)

9. เซโนแห่งซิเทียม (Zeno of Citium) ประมาณ 334–262 ปีก่อนคริสตกาล

    เซโนแห่งซิเทียมเกิดที่เมืองซิเทียม (Citium) ในไซปรัส และเป็นผู้ก่อตั้งปรัชญาสโตอิก (Stoicism) ซึ่งเป็นหนึ่งในสำนักปรัชญาที่สำคัญในยุคเฮลเลนิสต์ เขาเริ่มต้นศึกษาแนวคิดปรัชญาสัจนิยม Cynicism ก่อนจะพัฒนาแนวคิดของตัวเองโดยเน้นการใช้เหตุผลในการควบคุมอารมณ์และยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

    เซโนเชื่อว่าความสุขเกิดจากการดำเนินชีวิตตามคุณธรรมและการปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับธรรมชาติ โดยไม่ตกเป็นทาสของเหตุการณ์ภายนอกหรือความรู้สึกส่วนตัว สำนักปรัชญาของเขาได้รับความนิยมอย่างมากในยุคโรมันและยังส่งผลต่อแนวคิดในยุคปัจจุบัน

ผลงานเด่น: 

  • การจัดระบบปรัชญาสโตอิกให้แบ่งออกเป็นสามส่วน ได้แก่ ตรรกศาสตร์ ฟิสิกส์ และจริยศาสตร์ 
  • แนวคิดเรื่อง Logos หรือเหตุผลที่กำกับจักรวาล



10. อะแนกซิแมนเดอร์ (Anaximander)

10. อะแนกซิแมนเดอร์ (Anaximander) ประมาณ 610–546 ปีก่อนคริสตกาล

    อะแนกซิแมนเดอร์เป็นนักปรัชญาธรรมชาติยุคแรก ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาความคิดเกี่ยวกับกำเนิดของจักรวาลและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต เขาเสนอแนวคิดเกี่ยวกับ “Apeiron” ซึ่งหมายถึงสิ่งที่ไร้ขอบเขตหรือไม่มีจุดสิ้นสุด เป็นแหล่งกำเนิดของทุกสิ่งในจักรวาล โดยเชื่อว่า Apeiron เป็นหลักการพื้นฐานที่ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยประสบการณ์หรือประสาทสัมผัสทั่วไป 

   อะแนกซิแมนเดอร์ ยังเป็นหนึ่งในนักปรัชญาที่เริ่มต้นแยกวิทยาศาสตร์ออกจากตำนาน โดยใช้เหตุผลในการอธิบายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น การกำเนิดโลก การเคลื่อนที่ของดวงดาว และวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต

ผลงานเด่น: 

  • ทฤษฎีเกี่ยวกับ Apeiron หรือสิ่งที่ไร้ขอบเขต 
  • การสร้างแผนที่โลกแบบแรก ๆ และแนวคิดเกี่ยวกับระบบจักรวาล

 

    นักคิดนักปราชญ์กรีกเหล่านี้ไม่เพียงวางรากฐานของการศึกษาปรัชญาตะวันตก แต่ยังเป็นผู้บุกเบิกการศึกษาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และจริยธรรมอีกด้วย แสดงให้เห็นว่าการคิดวิเคราะห์และท้าทายความเชื่อเดิมคือพลังสร้างสรรค์ที่เปลี่ยนแปลงโลกได้

     เป็นอย่างไรกันบ้าง? สุดยอดเลยใช่ไหม? หวังว่าหลังอ่านบทความนี้แล้ว น้อง ๆ จะรู้จัก “10 นักคิด / นักปราชญ์กรีกในตำนาน” กันมากขึ้นนะ 

    สำหรับใครที่กำลังมองหาที่ติวตัวต่อตัว หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็มาปรึกษาพี่ TUTOR VIP ได้นะ พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ


   บทความต่อไป TUTOR VIP จะมาแนะนำอะไรอีกนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ

 

ด้วยความร่วมมือของ TUTOR-VIP X Clearnote Thailand

 

สนใจเรียนพิเศษประวัติศาสตร์ตัวต่อตัว ติดต่อได้ที่👇

Line logo LINE ID: @tutorvip หรือคลิ๊ก https://lin.ee/UQ3gQwP
 
ดูอัตราค่าเรียนพิเศษได้ที่ : https://tutor-vip.com/course/learning-price/
 

บทความล่าสุด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save