“ประเทศอังกฤษ” เป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของการไปศึกษาต่อของนักเรียนจากทั่วโลก เนื่องจากเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นต้นกำเนิดของภาษาอังกฤษ อีกทั้งยังมีความเข้มแข็งทางวิชาการในระดับโลก ในบทความนี้พี่ TUTOR VIP จึงจะมาแบ่งปันข้อมูลเพื่อให้น้อง ๆ ที่สนใจได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการเรียนต่อมัธยมที่อังกฤษให้มากขึ้น
เลือกอ่านเนื้อหาที่ต้องการ
- เรียนต่อมัธยมที่อังกฤษ ดีอย่างไร?
- ระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษ เป็นอย่างไร?
- หลักสูตรการเรียนต่อ มือะไรบ้าง?
- การไปเรียนต่อที่อังกฤษ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ตัวอย่างโรงเรียนที่นิยมในอังกฤษ
- ต้องเตรียมตัวอย่างไร ต้องสอบอะไรบ้าง?
- การไปเรียนต่ออังกฤษทำ visa ยากไหม?
- สามารถไปเองได้ไหม หรือ ต้องมีคนพาไป หรือ ต้องขอทุนไหม?
เรียนต่อมัธยมที่อังกฤษ ดีอย่างไร?
การเรียนต่อมัธยมศึกษาที่อังกฤษเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเรียนรู้และพัฒนาตนเองในหลายๆ ด้าน เช่น
- เป็นประเทศต้นแบบการศึกษาในนานาประเทศ: ประเทศอังกฤษถือเป็นประเทศต้นแบบด้านการศึกษาในหลายประเทศทั่วโลก เช่น ระบบโรงเรียนในสวิสเซอร์แลนด์, แคนาดา, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ล้วนนำรูปแบบโรงเรียนของประเทศอังกฤษมาใช้ ซึ่งเน้นในเรื่องของการสร้างผู้เรียนให้มีวินัย ให้เกียรติผู้อื่น และเคารพผู้ใหญ่
- มีมาตรฐานการศึกษาสูง: ระบบการศึกษาของประเทศอังกฤษจัดอยู่ในแนวหน้าของโลก หลักสูตรมีความเข้มข้นทางวิชาการซึ่งหล่อหลอมให้ผู้เรียนเรียนจบอย่างมีคุณภาพ
- สังคมมีความหลากหลายและเปิดกว้าง: อังกฤษเป็นประเทศที่มีนักเรียนจากทั่วโลกให้ความสนใจมาเรียน ทำให้ผู้เรียนมีโอกาสได้พบปะกับเพื่อนร่วมชั้นจากนานาประเทศ ได้เจอวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทำให้ผู้เรียนมีวิธีการมองโลกแบบสากลมากขึ้น
- ได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ: การเรียนต่อมัธยมที่อังกฤษเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเรียนที่ต้องการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาหลักในการสื่อสารกับผู้คนทั่วโลก
- ได้เปิดโลกกว้าง: ประเทศอังกฤษเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีโบราณสถานที่สวยงามหลายแห่ง อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ
- ได้พัฒนาตัวเอง: การเรียนต่อมัธยมที่อังกฤษช่วยให้น้อง ๆ ได้พัฒนาทักษะและความสามารถต่างๆ เช่น ทักษะการเรียนรู้เชิงวิชาการ, ทักษะการแก้ปัญหา, ทักษะการใช้ชีวิตด้วยตนเอง
- โอกาสในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยระดับโลก: คุณภาพการศึกษาของประเทศอังกฤษเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ทำให้หากจบการศึกษาระดับมัธยมจากอังกฤษแล้ว โอกาสในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกจะเปิดกว้างขึ้น
เป็นต้น
ระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษ เป็นอย่างไร?
ระบบการศึกษาในประเทศอังกฤษเป็นระบบการศึกษาที่เน้นให้ผู้เรียนได้รู้ลึกรู้จริงในวิชาที่สนใจ ซึ่งค่อนข้างแตกต่างจากระบบของอเมริกา โดยแบ่งระดับการศึกษาออกเป็น 3 ช่วง ดังนี้
- การศึกษาภาคบังคับ: ประถมศึกษา-มัธยมศึกษาตอนต้น (Year 1-11)
- การศึกษาระดับ Further Education: มัธยมศึกษาตอนปลาย (Year 12-13)
- การศึกษาระดับ Higher Education: มหาวิทยาลัย
โดยโรงเรียนที่เปิดรับนักเรียนจากต่างชาติในอังกฤษส่วนใหญ่จะเป็นโรงเรียนเอกชน แบ่งประเภทโรงเรียนได้ ดังนี้
- โรงเรียนประจำ (Traditional Boarding School) เป็นโรงเรียนที่มักมีประวัติการก่อตั้งที่ยาวนาน สัดส่วนนักเรียนชาวอังกฤษจะมากกว่านักเรียนต่างชาติ
- International College มีทั้งแบบเป็นโรงเรียนประจำ และแบบไปกลับ สัดส่วนนักเรียนต่างชาติจะมากกว่า Traditional Boarding School
- International Study Center เป็นโรงเรียนสำหรับเตรียมความพร้อมให้นักเรียนต่างชาติเพื่อให้สามารถเข้าศึกษาในโรงเรียนแบบ Traditional Boarding School และ International College ต่อไปได้
- Public School โรงเรียนรัฐบาล จุดเด่นคือมีค่าเล่าเรียนถูกกว่าโรงเรียนในข้อด้านบนทั้ง 3 แบบ แต่จำนวนโรงเรียนที่เปิดรับนักเรียนต่างชาติจะมีน้อยกว่า
หลักสูตรการเรียนต่อ มีอะไรบ้าง?
หลักสูตรการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ของประเทศอังกฤษจะแบ่งเป็น 2 ระดับ ได้แก่
1.ระดับมัธยมศึกษา (Secondary School) แบ่งเป็น 2 ระดับย่อย ดังนี้
- Key Stage 3 (Year 7-9) เป็นระดับที่นักเรียนต่างชาติมักมาเริ่มต้นเรียนที่อังกฤษ
- Key Stage 4 (Year 10-11) หลังจบการศึกษาในระดับนี้แล้วจะได้รับวุฒิ General Certificate of Secondary Education (GCSE)
2. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Further Education) แบ่งแผนการเรียนเป็น 2 แบบใหญ่ ๆ ได้ดังนี้
- สายสามัญ (Academic Qualification) เป็นแผนการเรียนสำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ซึ่งทำการสอนในหลักสูตรที่เรียกว่า A-Level หลังจบการศึกษาในระบบ A-Level แล้ว จะได้รับวุฒิGeneral Certificate of Education (GCE) ใช้นำไปยื่นศึกษาต่อได้
- สายวิชาชีพ (Vocational Qualification) เป็นแผนการเรียนสำหรับนักเรียนที่ต้องการเน้นเรียนวิชาด้านปฏิบัติ หลักสูตรสำหรับแผนการเรียนนี้จะเรียกว่า BTEC ซึ่งเมื่อจบการศึกษาแล้วสามารถนำวุฒิไปยื่นศึกษาต่อได้เช่นกัน แต่มหาวิทยาลัยที่รับจะมีจำนวนน้อยกว่า A-Level
การไปเรียนต่อที่อังกฤษ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
การไปเรียนต่อระดับมัธยมที่อังกฤษมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงกว่าประเทศอื่นเนื่องจากนักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่เลือกเรียนได้เฉพาะโรงเรียนเอกชน อีกทั้งบางโรงเรียนยังต้องการให้จัดหา Guardian เพื่อเป็นตัวแทนผู้ปกครองขณะที่น้อง ๆ เรียนที่อังกฤษอีกด้วย โดยค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจะมี ค่าเทอม, ค่าที่พัก, ค่า Guardian Fee, ค่าโฮสต์, ค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ เป็นต้น โดยทั่วไปโรงเรียนเอกชนในอังกฤษจะมีค่าเล่าเรียนประมาณ 10,000-38,000 ปอนด์/ปี หรือประมาณปีละ 425,000 – 1,617,000 บาท ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
อย่างไรก็ตามสามารถตรวจสอบข้อมูลค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมของได้โดยติดต่อโรงเรียนที่สนใจได้โดยตรง
ตัวอย่างโรงเรียนที่นิยมในอังกฤษ
โรงเรียนเอกชนหลายแห่งมีประวัติความเป็นมายาวนาน และมีมาตรฐานทางวิชาการสูง โดยผลการจัดอันดับโรงเรียนเอกชนที่ดีที่สุดวัดจากคะแนนสอบ โดย ukguardianship มีดังนี้
-
- Cardiff Sixth Form College
- King’s College School (KCS)
- Guildford High School
- Westminster School
- Oxford International College
- King Edward VI High School for Girls
- City of London School
- Wycombe Abbey
- Brighton College
- Magdalen College School
สามารถดูรายละเอียดแต่ละโรงเรียนเพิ่มเติมได้ที่ คลิก
โรงเรียนข้างต้นล้วนเป็นโรงเรียนยอดนิยมในหมู่นักเรียนต่างชาติ หากน้อง ๆ กำลังอยู่ในช่วงลังเลว่าจะเลือกไปเรียนที่ไหนดี สามารถดูรายชื่อโรงเรียนด้านบนประกอบการตัดสินใจได้นะ
ต้องเตรียมตัวอย่างไร ต้องสอบอะไรบ้าง?
การเตรียมตัวสำหรับการไปเรียนมัธยมที่อังกฤษนั้นมีหลายอย่างที่ควรพิจารณา ดังนี้
- ค้นหาโรงเรียนที่ใช่: โดยพิจารณาจากหลักสูตร, ค่าใช้จ่าย, และทำเลที่ตั้งของโรงเรียน
- ทักษะภาษาอังกฤษ: ควรเตรียมตัวให้มีความรู้ความเข้าใจในภาษาอังกฤษให้มากที่สุด ไม่เฉพาะภาษาในชีวิตประจำวัน แต่รวมไปถึง Academic English ด้วย เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาในการเรียน
- เนื้อหาการเรียน: ก่อนไปเรียนที่อังกฤษน้อง ๆ ควรลองหาตำราเรียนของประเทศอังกฤษมาอ่าน และลองทำข้อสอบดู เพื่อให้เกิดความคุ้นชินในเนื้อหา และคำศัพท์ที่ใช้ในแต่ละรายวิชา
- เอกสารสำหรับการยื่นวีซ่า: การจะไปเรียนต่อระดับมัธยมที่อังกฤษจะต้องมี UK Student Visa โดยมีเอกสารที่จำเป็น อาทิ หนังสือเดินทาง, เอกสารตอบรับเข้าศึกษา, และ Bank Statement เป็นต้น
การไปเรียนต่ออังกฤษ ทำ visa ยากไหม?
การทำวีซ่าไปเรียนต่อที่อังกฤษนั้นไม่ยากอย่างที่คิด แต่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนและเอกสารที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การยื่นวีซ่าเป็นไปได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยประเภทวีซ่าที่ต้องขอคือ UK Student Visa ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับนักเรียนที่จะไปศึกษาต่อที่อังกฤษ โดยขั้นตอนการขอยื่น UK Student Visa แบบระยะยาว (เกิน 6 เดือน) มี ดังนี้
- สมัครเรียนและได้รับเอกสารตอบรับเข้าศึกษา (CAS: Confirmation of Acceptance of Studies) จากโรงเรียนแล้ว
- เมื่อได้รับใบ CAS แล้ว สามารถยื่นขอวีซ่านักเรียนได้ ที่นี่ สามารถยื่นได้นานสูงสุดก่อนเรื่มเรียน 6 เดือน โดยมีค่าธรรมเนียมวีซ่า 363 ปอนด์ (ต้องมีหนังสือเดินทาง)
- หลังจากนั้นจะต้องเสียค่าประกันสุขภาพ (Immigration Health Surcharge) 470 ปอนด์ เพื่อให้เข้าถึงระบบการรักษาพยาบาลขณะที่เรียนที่อังกฤษ
- ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องมีผลรับรองระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษด้วย (ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ของแต่ละโรงเรียน)
- เอกสาร Bank Statement (ของผู้ปกครอง หรือสปอนเซอร์)
โดยหลังจากยื่นขอวีซ่าแล้ว จะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 15 วันทำการ
สามารถไปเองได้ไหม หรือ ต้องมีคนพาไป หรือ ต้องขอทุนไหม?
น้อง ๆ สามารถไปเรียนมัธยมที่อังกฤษเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีคนพาไป อย่างไรก็ตามในการเรียนระดับมัธยม บางโรงเรียนอาจให้น้อง ๆ ต้องจัดหา Guardian ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองในขณะที่อยู่ที่อังกฤษด้วย อีกทั้งในช่วงปิดเทอมหากน้อง ๆ ไม่ได้กลับประเทศไทย ก็จำเป็นจะต้องจัดหา Host Family เพื่อให้มีที่อยู่อาศัยในช่วงปิดเทอมอีกด้วย
ในส่วนของทุนการศึกษา การไปเรียนมัธยมที่อังกฤษหากมีสปอร์เซอร์ที่รับผิดชอบค่าการศึกษา และค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตที่อังกฤษได้ก็สามารถไปเรียนได้โดยไม่จำเป็นต้องขอทุน
กรณีที่ไม่มีสปอนเซอร์ในปัจจุบันมีทุนสนับสนุนทั้งจากโรงเรียนและองค์กรต่าง ๆ ให้กับนักเรียนต่างชาติที่สนใจไปศึกษาในโรงเรียนมัธยมในอังกฤษ เช่น
- The Jack Petchey Foundation’s Awards for All
- The British Council’s Chevening Scholarships
- The Rotary Foundation’s Ambassadorial Scholarships
- The Gates Cambridge Scholarships
เป็นต้น
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับน้อง ๆ ที่และกำลังสนใจไปเรียนต่อมัธยมที่อังกฤษกันนะ
ส่วนน้อง ๆ คนไหนที่กำลังมองหาที่ติว หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็มาปรึกษาพี่ TUTOR VIP ได้เลย พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ
บทความต่อไป TUTOR VIP จะมาแนะนำอะไรอีกนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะ
ด้วยความร่วมมือของ TUTOR-VIP X Clearnote Thailand
บทความล่าสุด
สังคมและประวัติศาสตร์
สรุปพุทธประวัติแบบกระชับ!
สังคมและประวัติศาสตร์
สรุปรวม “ศาสนาสำคัญของโลก” ที่ต้องรู้!
สังคมและประวัติศาสตร์
รากฐานแห่ง“อารยธรรมอินเดีย” อารยธรรมที่ส่งต่อถึงปัจจุบัน